(VOVworld)-ลีลา จังหวะและเสียงสูงต่ำได้สร้างสายธารแห่งเสียงเพลงของสามภาคเวียดนามในการแสดงคอนเสิร์ตเสียงเพลงซางและสายไหมของศิลปินระดับปรมาจารย์ด้านเพลงพื้นเมืองโบราณเวียดนามหลายชีวิต นับเป็นการพบปะระหว่างผู้ที่หลงไหลกับเพลงพื้นเมืองโบราณเวียดนามจากเหนือจรดใต้และในต่างประเทศเช่น ศิลปินเฮืองแทง ศิลปินยอดเยี่ยมดั่งกงฮึง ดว่านแทงบิ่นห์ ศิลปินประชาชนซวนแหวกและโงแทงหว่าย ซึ่งได้ทำให้ผู้ชมเข้าใจและรู้สึกถึงสิ่งที่ดีเลิศและโดดเด่นของเพลงพื้นเมืองโบราณของเวียดนาม
ศิลปินแทงบิ่นห์ แทงหว่ายและซวนแหวกแสดงในงานคอนเสิร์ต
ในการแสดงคอนเสิร์ตเสียงเพลงซางและไหมนี้ ศิลปินแต่ละท่านได้แสดงเพลงพื้นเมืองที่เพราะๆของตนเชาน ศิลปินประชาชนโงแทงหว่ายร้องเพลงทำนองแจ่วของเขตที่ราบภาคเหนือเวียดนามและขับกลอนโบราณ ศิลปินดว่านแทงบิ่นห์ร้องเพลงพื้นเมืองทำนองกาจู่ด้วยเทคนิกที่ดีเยี่ยม ส่วนศิลปินประชาชนซวนแหวกร้องเพลงขอทานเสิ่มที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับท่าน ศิลปินด่ามกวางมินห์ที่เป็นผู้เสนอข้อคิดริเริ่มจัดการแสดงคอนเสิร์ตดังกล่าวคนหนึ่งเปิดเผยว่า “ รายการนีเริ่มต้นมาจากการพบปะกับเพื่อนๆที่ประกอบอาชีพดนตรีจากต่างแดนนั่นคือ นักร้องเฮืองแทงที่อาศัยอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อคุณเฮืองแทงกลับประเทศก็อยากพบปะกับเพื่อนๆที่ร้องเพลงพื้นเมืองโบราณภาคเหนือเพื่อทำความรู้จักและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และความคิดเกี่ยวกับการจัดรายการแสดงคอนเสิร์ตเพลงพื้นเมืองเวียดนามได้เกิดขึ้นในขณะการพบปะเพื่อสร้างเป็นเรื่องราวด้านดนตรีสามภาคเวียดนาม ”
การจัดคอนเสิร์ตเสียงเพลงซางและไหมผูกพันกับความคิดที่นำเครื่องดนตรีพื้นเมืองโบราณของเวียดนามเช่นพิณได๊ที่คลับกับกระจับปี่ พิณซึงและพิณน้ำเต้าที่ทำจากวัสดุพื้นเมืองเช่นไม้ซางและสายไหมกลับสู่ชีวิตดนตรีของคนเวียด ศิลปินประชาชนแหวกได้เข้าร่วมอย่างกระตือรือร้นไม่เพียงแต่ในการฟื้นฟูเพลงพื้นเมืองแขนงต่างๆเช่น เพลงขอทานเสิ่มและกาจู่เท่านั้น หากยังศึกษาวิจัยและฟื้นฟูสายพิณที่ทำจากไหมเพื่อนำเสียงดนตรีโบราณกลับมา ท่านซวนแหวกเห็นว่า ในวรรณคดี ไม้ซางเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์และความซื่อตรงซึ่งหมายถึงชายชาตรี ส่วนเสียงดนตรีที่อ่อนโยนอ่อนหวานและนิ่มนวลจากสายไหมเป็นสัญลักษณ์ของเสียงร้องของนักร้องหญิง ซึ่งภาพลักษณ์แห่งวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์นี้สะท้อนความกลมกลืนของดนตรีพื้นเมืองตะวันออก ศิลปินประชาชนซวนแหวกกล่าวว่า “ การผลิตไหมทำให้เราเข้าใจความไพเราะของไหม เพลงทำนองกาจู่ไม่ได้มีพิณที่มีสายไหมเล่นประกอบให้มาหลายปี ปัจจุบัน เราสามารถผลิตสายไหมได้ ผมรู้สึกมีความสุขมาก ผมกล้ายืนยันได้ว่าสายไหมถูกตั้งเสียงได้มาตราฐานแล้วและได้ใช้ในงานคอนเสิร์ตครั้งนี้ นับเป็นของขวัญในชีวิตผมที่สาวสายไหมเพื่องานของตน ผมหวังว่า มันจะได้รับการเผยแพร่อย่างแพร่หลายเพื่ออนุรักษ์พิณที่มีสายด้วยไหม ”
นับเป็นคร้ังแรกที่เครื่องดนตรีที่ทำจากไม้ซางและสายไหม
ถูกนำมาแสดงหลังจากไม่ได้ใช้มาหลายปี
คอนเสิร์ตเสียงเพลงซางและสายไหมเป็นการแสดงเพลงพื้นเมืองโบราณที่ไพเราะของเวียดนามไม่ว่าจะเป็นเพลงทำนองกาจู่ เพลงทำนองเจิ่ววัน เพลงแจ่ว เพลงขอทานเสิ่ม เพลงพื้นเมืองเว้และเดิ่นกาต่ายตื่อจากศิลปินรุ่นปรมาจารย์ของเวียดนาม การร้องเพลงโบราณที่ยากๆของแจ่วเช่น ด่าวเหลียวและกวานเอิมถิ่กิ๊ง เพลงเจิ่ววันโองหว่างเหมื่อยและโกโดยเถื่องหง่าน หรือเพลงขอทานเสิ่ม “ นั่งคิดถึงแม่ ”ที่มีคติเตือนใจและกินใจมาก นายเหงวียนซวนแถ่ง ผู้ชมคนหนึ่งกล่าวว่า “ นี่คือเพลงโปรดของผม นับเป็นอาหารทางใจพิเศษที่ดีเลิศ นี่คือรายการคอนเสิร์ตที่เมื่อฟังแล้วผมรู้สึกตื่นเต้นตั้งแต่ต้นจนจบ รายการนี้ทำให้ผมได้หวนกลับสู่วัยเด็กที่ได้ชมการร้องเพลงเสิ่มและแจ่ว นับเป็นสิ่งที่ดีเลิศที่บรรดาศิลปินที่ยอดเยี่ยมของเวียดนามมอบให้แก่ผู้ชม ”
ส่วนนายเหงวียนเท้แบ๊ก ที่เป็นคนรุ่นใหม่ได้แสดงความชื่นชอบต่องานคอนเสิร์ตดังกล่าว “ ผมมีความรู้สึกถึงความดีงามของรายการแสดงคอนเสิร์ตในคืนนี้ ซึ่งได้รับความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของคนเวียดมากขึ้น งานแสดงดีมากๆ ”
คอนเสิร์ตเสียงเพลงซางและสายไหมได้ช่วยเพิ่มความรักดนตรีพื้นเมืองแก่บรรดาผู้ที่รักและหลงไหลเพลงพื้นเมือง อันเป็นการอนุรักษ์เพลงพื้นเมืองโบราณที่ไพเราะๆของเวียดนามอีกทางหนึ่ง ./.