ภาพเขตโบราณสถานกรุงเก่าเว้มองจากมุมสูง (Photo - Zing.vn)
|
ในช่วงปลายศตวรรษที่15 ท้องถิ่นที่มีชื่อว่า เว้ ได้ปรากฎเป็นครั้งแรกในยุคกษัตริย์เลแท้งตง ถึงปี1636 ได้มีการตั้งวังของเจ้าเหงวียนที่กิมลอง-เว้ ถึงปี1687 ก็ย้ายไปที่เมือง ฟู้ซวน ซึ่งก็คือเว้ในปัจจุบัน ในช่วงต้นศตวรรษที่18 ฟู้ซวนได้กลายเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของอาณาเขต “ด่างจอง” ตั้งแต่ปี1788-1801 ฟู้ซวนได้กลายเป็นราชธานีของกษัตริย์เตยเซิน นักประวัติศาสตร์เลวันลานได้ให้ข้อมูลว่า“บรรดากษัตริย์ของราชวงศ์เหงวียนโดยเฉพาะกษัตริย์ยาลองและกษัตริย์มิงหมางทรงมีสายพระเนตรยาวไกลเมื่อตั้งฟู้ซวนให้เป็นเมืองหลวงของประเทศด๋ายนาม ซึ่งตอนนั้นเว้ได้มีบทบาทสำคัญเป็ยอย่างยิ่งเมื่อมีบทบาทเป็นศูนย์กลางทางการเมืองของประเทศ โดยมีการจัดตั้งระบบกลไกการบริหารพร้อมกิจการสำคัญๆต่างๆที่เอื้อให้แก่การบริหาร”
ตั้งแต่ปี1802 – 1945 เว้เป็นราชธานีของเวียดนามภายใต้ยุคของกษัตริย์ราชวงศ์เหงวียน13พระองค์ ดังนั้นในช่วงเวลานี้ได้มีการก่อสร้างสถาปัตยกรรมต่างๆที่มีคุณค่าทั้งด้านวัฒนธรรมและศิลปะ เช่นทางฝั่งเหนือของแม่น้ำเฮืองคือระบบสถาปัตยกรรมที่เป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์เหงวียนได้แก่ พระบรมมหาราชวังเว้ที่มีหลายชั้นเช่น พระราชวังชั้นในและพระราชวังต้องห้ามที่เชื่อมต่อกันจากทิศเหนือสู่ทิศใต้ โดยมีการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันออกและตะวันตก ตั้งอยู่ในทำเลที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติเช่น ภูเขา หงึอบิ่ง แม่น้ำเฮือง เนินหยาเวียน เป็นต้น ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์แห่งกรุงเก่าเว้ในปัจจุบัน
สะพานจ่างเตี่ยนข้ามแม่น้ำเฮือง |
สำหรับพระราชวังชั้นในมีกำแพงสี่เหลี่ยมล้อมรอบแต่ละด้าน600เมตร มีประตูเข้าออกทั้ง4ทิศ โดยประตูเหงาะมนมีความสำคัญเพราะเป็นประตูเข้าสู่เขตพระราชวังสำคัญที่เป็นศูนย์รวมแห่งอำนาจสูงสุดของราชวงศ์เหงวียน นอกจากนั้นกิจการอื่นๆที่น่าสนใจในเขตนี้ก็มี วิหารเลืองดิ่ง หอฟูวันเลิว เนินกี่ด่าย วังท้ายหว่า วังเกิ่นเเจ๊ง วังก่านแทง เป็นต้น รวมถึงสิ่งปลูกสร้างขนาดเล็กอื่นๆที่ตั้งขนานกันสองฝั่งแม่น้ำ เมื่อมองออกไปทางทิศตะวันตกของพระบรมมหาราชวังก็เป็นเขตที่ตั้งสุสานฮวงซุ้ยของบรรดาพระมหากษัตริย์ราชวงศ์เหงวียนที่ออกแบบตามสถาปัตยกรรมเวียดนามโดยสุสานของกษัตริย์แต่ละพระองค์ล้วนสะท้อนให้เห็นพระบารมีและพระอัจริยภาพของกษัตริย์องค์นั้นๆ
ในการประชุมครั้งที่17ของคณะกรรมการมรดกโลก ณ โคลัมเบียเมื่อปี1993 ยูเนสโก้ได้ออกมติรับรองเขตโบราณสถานกรุงเก่าเว้เป็นมรดกวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ซึ่งได้ช่วยยืนยันคุณค่าของการเป็นผลงานแห่งศิลปะและสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่มนุษย์ได้สร้างสรรค์ไว้ เป็นพยานหลักฐานแห่งประวัติศาสตร์ช่วงหนึ่งที่มีความสำคัญและเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ยิ่งใหญ่ต่างๆรวมถึงแนวคิดและความเลื่อมใสของประชาชาติเวียดนาม.