ภาพจากประตูทางเข้าแหล่งท่องเที่ยว"Một thoáng Việt Nam" |
แหล่งท่องเที่ยว "Một thoáng Việt Nam" มีพื้นที่กว่า20เฮกต้าปกคลุมด้วยสีเขียวของต้นไม้ กอไผ่และผืนหญ้า ประตูทางเข้ามีการตั้งรูปจำลองของไข่ยักษ์ที่สื่อความหมายในรากเง่าของประชาชาติเวียดนามที่เป็นลูกหลานของบิดาชื่อหลากลองกวน (Lạc Long Quân) และมารดาชื่อ เอาเกอ (Âu Cơ) ภายในแหล่งท่องเที่ยวยังมีการจัดฉากสร้างบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของทั้ง3ภาคเหนือ-กลาง-ใต้ของเวียดนามเช่น รูปจำลองของประตูกำแพงเก่าโก๋ลวา น้ำตก บ๋านยก นาบันได บ้านโรงของเตยเงวียน เป็นต้น
มีน้อยคนที่รู้ว่าเพื่อที่จะมีแหล่งท่องเที่ยว "Một thoáng Việt Nam" ดั่งเช่นทุกวันนี้ ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาคุณ Tran Thi Tuyet Nga ซึ่งเป็นกุลบุตรคนหนึ่งของแผ่นดินกู๋จีต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจและใช้ความพยายามอย่างมากในการถมหนองน้ำ กลบหลุมระเบิดเพื่อเคลียร์พื้นที่สร้างโครงการ ซึ่งจากที่เคยเข้าร่วมการต่อสู้ในช่วงสงครามในผนป่าธรรมชาติกู่จี เธอจึงเข้าใจแผ่นดินที่นี่ทุกตารางนิ้วมากกว่าใครๆ และด้วยปรารถนาที่จะฟื้นฟูบ้านเกิดและรักษาคุณค่าทางวัฒนธรรมของเวียดนาม เธอจึงได้ตั้งใจก่อตั้งสหกรณ์หมู่บ้านศิลปาชีพเวียดนาม แล้วพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ“ในฐานะคนที่เคยผ่านช่วงสงครามต่อต้านเราก็เข้าใจความเจ็บปวดทั้งหมดของแผ่นดินนี้มากกว่าคนหลายคน หลังจากประเทศได้รับเอกราชและเมื่อดิฉันเรียนจบจากต่างประเทศแล้วกลับบ้านเกิดก็เห็นบรรยากาศที่นี่เงียบเหงามากเลยตัดสินใจลงมือทำ และฉันก็ตระหนักได้ว่าบางทีประเทศอาจต้องการคนที่ยอมเผชิญความยากลำบากและความท้าทายเพื่อที่จะสร้างสรรค์วัฒนธรรมอย่างจริงจัง จึงได้เดินหน้าต่อไป”
คุณ Tran Thi Tuyet Nga ซึ่งเป็นกุลบุตรคนหนึ่งของแผ่นดินกู๋จี |
เวลา30 ปีของการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว "Một thoáng Việt Nam" ก็เป็นช่วงเวลาที่คุณเจิ่นถิเตวียดงาต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆมากมายเพื่อดำเนินตามปรัชญาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ยึดมั่นความภาคภูมิใจในชาติเพื่อพยายามรักษาและพัฒนาเอกลักษณ์ที่งดงามของวัฒนธรรมเวียดนาม เธอได้เดินทางไปทั่วทุกท้องถิ่นเพื่อรวบรวมโบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมหรือพันธุ์ไม้และไผ่หลายร้อยชนิดในทั้ง 3 ภูมิภาคเพื่อนำมาพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เชิญช่างฝีมือจากหมู่บ้านหัตถกรรมมาทำหน้าที่เป็นไกด์นำเที่ยว คุณ เหงียนถิเฮือง ศิลปินที่ได้รับเชิญจากหมู่บ้านหัตถกรรมกระดาษ ด๊งกาว จังหวัดบั๊กนินห์ กล่าวว่า เธอมีความสุขมากที่ได้นำงานฝีมือแบบดั้งเดิมของบรรพบุรุษมาเพื่อแนะนำให้กับผู้มาเยี่ยมชมโดยเฉพาะเด็กนักเรียน“เด็ก ๆ ชอบงานนี้ โดยเฉพาะการพิมพ์ภาพเอง ดิฉันยังรู้สึกมีความสุขมากเพราะอาชีพดั้งเดิมของบ้านเกิดของฉันได้รับการเผยแพร่แนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก”
นอกจากส่งเสริมการอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมของชาติแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คุณเตวียดงาต้องการทำคือการให้ความรู้ใหม่แก่เยาวชนรุ่นใหม่ผ่านกิจกรรมการท่องเที่ยวต่างๆ โดยในแหล่งท่องเที่ยวขนาด 20 เฮกตาร์แห่งนี้มีการจัดโซนที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อให้ผู้เข้าชมโดยเฉพาะนักศึกษาได้เรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทของดินและน้ำ กระบวนการทำเกษตรอินทรีย์หรือเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการปลูกเห็ด กระบวนการสกัดน้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพรเวียดนาม คุณ Van Cong Hung รองผู้อำนวยการแหล่งท่องเที่ยว "Một thoáng Việt Nam" เผยว่านี่คือวิธีการสอดแทรกการศึกษาเข้ากับการท่องเที่ยวเพื่อช่วยให้ผู้คนมีความรักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น“แนวคิดในการสร้างโซนประสบการณ์เพื่อการศึกษาเกี่ยวกับอาหารสะอาด การใช้เทคโนโลยีสะอาด เป็นความคิดที่ดีของคุณงา นักเรียนนักศึกษาสามารถไปที่นั่นเพื่อสอบถามเรียนรู้วิทยาศาสตร์ทั่วไป เรียนรู้วิธีการมีน้ำสะอาด วิธีทำให้ดินสะอาด การสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาดและธรรมชาติที่สะอาด นั่นคือสิ่งที่เรากำลังมุ่งพัฒนาเพื่อส่งเสริมคุณค่าที่กว้างใหญ่มากขึ้น”
นักศึกษาได้เรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทของดินและน้ำ กระบวนการทำเกษตรอินทรีย์หรือเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการปลูกเห็ด กระบวนการสกัดน้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพรเวียดนาม |
จากการทำการท่องเที่ยวด้วยใจจริง คุณเตวียดงาและทีมงานได้ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินทางมาที่นี่รู้สึกประทับใจ เด็กๆ ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ผู้สูงอายุมีโอกาสหวนคิดถึงความทรงจำในวัยเด็กด้วยภาพของบ้านหลังเก่า คุณ Thuong Thi Gua นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยว "Một thoáng Việt Nam" แสดงความคิดเห็นว่า“แหล่งท่องเที่ยวนี้เป็นธรรมชาติมาก ทิวทัศน์สวยงามและบรรยากาศก็ร่มเย็นปลอดโปร่ง ไกด์นำเที่ยวมีความกระตือรือร้นมาก ในบ้านเกิดของเราก็มีบ้านหลังคามุงหญ้า ผักสวนครัวแปลงเล็กๆ มีบ่อน้ำบ่อปลา แต่ตอนนี้ตัวเมืองพัฒนาทันสมัยไม่ค่อยเห็นมีภาพแบบนี้อีกแล้ว ดังนั้นเมื่อมีแหล่งท่องเที่ยวแบบนี้เราก็เห็นว่ามันมีความหมายมากสำหรับทั้งผู้สูงอายุและคนหนุ่มสาวเพื่อที่จะได้รู้เกี่ยวกับรากเหง้าของตนเอง”
ไม่ว่าจะเที่ยวในช่วงเวลาใดของปี ถ้าหากใครที่ต้องการหาพื้นที่เพื่อผ่อนคลายและสัมผัสบรรยากาศชนบทอย่างหลากหลาย ก็แนะนำให้ทุกคนมาที่ แหล่งท่องเที่ยว "Một thoáng Việt Nam" ซึ่งเป็นอีกจุดหมายการท่องเที่ยวที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับภาพรวมการท่องเที่ยวนครโฮจิมินห์./.