เดียนเบียน แผ่นดินแห่งการต่อสู้อันรุ่งโรจน์ในสมัยนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศส

Thu Hoa-VOV5
Chia sẻ
(VOVworld)- จังหวัดเดียนเบียนซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอยู่ห่างจากกรุงฮานอยประมาณ 500กิโลเมตร เป็นศูนย์รวมแห่งโบราณสถานที่มีความสำคัญของชัยชนะเดียนเบียนฟูเมื่อวันที่7พฤษภาคม1954ที่ก้องกระเดื่องในทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นอนุสรณ์สถานเนิน Him Lam เนิน A1 เนินD1 และศูนย์บัญชาการเดียนเบียนฟู เป็นต้น  ซึ่งยังคงได้รับการอนุรักษ์เพื่อเป็นพยานแห่งประวัติศาสตร์การต่อสู้อันโรจน์กับศัตรูผู้รุกรานของประชาชาติเวียดนาม.
(VOVworld)- จังหวัดเดียนเบียนซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอยู่ห่างจากกรุงฮานอยประมาณ 500กิโลเมตร เป็นศูนย์รวมแห่งโบราณสถานที่มีความสำคัญของชัยชนะเดียนเบียนฟูเมื่อวันที่7พฤษภาคม1954ที่ก้องกระเดื่องในทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นอนุสรณ์สถานเนิน Him Lam เนิน A1 เนินD1 และศูนย์บัญชาการเดียนเบียนฟู เป็นต้น  ซึ่งยังคงได้รับการอนุรักษ์เพื่อเป็นพยานแห่งประวัติศาสตร์การต่อสู้อันโรจน์กับศัตรูผู้รุกรานของประชาชาติเวียดนาม.
เดียนเบียน แผ่นดินแห่งการต่อสู้อันรุ่งโรจน์ในสมัยนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศส - ảnh 1
ทหารเวียดนามปักธงชับเหนือ อุโมงผู้บัญชาการ De Castries (Photo Internet) 

เขตโบราณสถานแห่งประวัติศาสตร์เดียนเบียนฟูอยู่ในพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะในตัวเมืองเดียนเบียน ถูกล้อมร้อบด้วยภูเขาทุกด้าน มีอนุสรณ์สถานที่โดดเด่นต่างๆเช่น เนิน ฮิมลาม(Him Lam) ซึ่งเป็นสถานที่แห่งแรกที่กองทัพเวียดนามได้บุกโจมตีเพื่อเป็นการเปิดฉากยุทธนาการเดียนเบียนฟูเมื่อวันที่13มีนาคมปี1954  เนิน ดกเหลิบ (Doc Lap) สถานที่ที่เกิดการสู้รบอย่างดุเดือดเมื่อวันที่ 15มีนาคมปี1954 อนุสาวรีย์ชัยเดียนเบียนฟูบนเนิน ดี1 สัญลักษณ์เกี่ยวกับความมุ่งมั่นแห่งการปักใจรบปักใจชนะของกองทัพและประชาชนเวียดนาม ตลอดจนพิพิธภัณฑ์ชัยชนะเดียนเบียนฟูที่มีการจัดแสดงสิ่งของวัตถุ ภาพถ่ายและข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับยุทธนาการเดียนเบียนฟู การต่อสู้ที่ทรหดกล้าหาญและความเสียสละอย่างยิ่งใหญ่ของชาวเวียดนามเพื่อก้าวไปสู่ชัยชนะวันที่ 7พฤษภาคมปี1954 เสร็จสิ้นกระบวนการต่อสู้กับนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสของประชาชาติเวียดนาม  นาย Nguyen Van Nam หัวหน้าฝ่ายวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวแห่งสำนักงานวัฒนธรรม กีฬาและท่องเที่ยวเดียนเบียนเผยว่า   ในโอกาสรำลึก50ปีชัยชนะเดียนเบียนฟู ท่านพลเอก หวอเงวียนยาบ ก็ได้ย้ำอีกครั้งถึงความหมายของอนุสรณ์สถานต่างๆในเดียนเบียนว่า  เดียนเบียนฟูเป็นหนึ่งในอนุสรณ์แห่งประวัติศาสตร์ระดับชาติที่มีความหมายสำคัญทั้งในขอบเขตระหว่างประเทศ การอนุรักษ์โบราณสถานเดียนเบียนฟูเพื่อให้สถานที่แห่งนี้ยืนยงคงอยู่ตลอดกาลนั้นเป็นหน้าที่สำคัญอย่างยิ่ง มีส่วนร่วมในการให้การศึกษาเกียรติประวัติแห่งวีรกรรมและจิตใจมุ่งมั่นสร้างสรรค์ของชาวเวียดนามรุ่นต่างๆในภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์ปิตุภูมิ และผลักดันภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ .

จุดที่ถือว่ามีความสำคัญที่สุดในเขตอนุสรณ์สถานเดียนเบียนฟูคือเนินเอ1(A1) สถานที่ที่เกิดการสู้รบอย่างดุเดือดและยาวนานที่สุด ซึ่งมีความหมายชี้ขาดต่อทั้งยุทธนาการนี้ ที่เนินเอ1มีอุโมงผู้บัญชาการ De Castries และเป็นสถานที่ที่ทั้งคณะผู้บัญชาการทหารฝรั่งเศสพร้อมนายพล De Castries ได้ยอมจำนนต่อกองกำลังของพลเอก หวอเงวียนยาบ  โดยปัจจุบันนี้อุโมงได้รับการบูรณะซ่อมแซมให้มีความมั่นคงแต่ยังคงสภาพเดิมไว้อย่างสมจริง ตลอดจนยังมีการรักษาร่องรอยต่างๆแห่งประวัติศาสตร์อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นระบบทางอุโมงลับ ระเบิดหนักพันกิโลกรัม หลุมฝังศพหมู่หรือรถถังและปืนใหญ่ที่สะท้อนให้เห็นถึงช่วงเวลาการต่อสู้และความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของชาติเวียดนาม  ส่วนสนามบิน เมืองแถน (Muong Thanh) และจุดสู้รบอีก206แห่งที่อยู่ในใจกลางเขตเดียนเบียนฟูในอดีตก็ได้พัฒนาเป็นท่าอากาศยานนานาชาติเดียนเบียนฟู  นาง Le Thi Tuyet Nga รองผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ชัยชนะเดียนเบียนฟูกล่าวว่าโบราณสถานต่างๆเหล่านี้มีคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ในการให้การศึกษาแก่ชนรุ่นหลังเกี่ยวกับเกียรติประวัติอันรุ่งโรจน์และความเสียสละของประชาชนทั้งประเทศเพื่อสร้างชัยชนะเดียนเบียนฟู  เขตอนุสรณ์สถานเดียนเบียนฟูนั้น ยังมีกลุ่มโบราณสถานที่เป็นฐานที่มั่นในต. เหมื่องพังซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการยุทธนาการเดียนเบียนฟู ห่างจากนครเดียนเบียนประมาณ40กิโลเมตร โดยที่นี่มีเพิงทำงานของหน่วยงานต่างๆที่รับผิดชอบการชี้นำยุทธนาการนี้รวมทั้งที่ทำงานของพลเอก หวอเงวียนยาบ และสิ่งที่ถือว่ายิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดที่เหมื่องพังคือ ทางอุโมงเชื่อมระหว่างที่ทำงานของท่านพลเอกและเสนาธิการใหญ่ Hoang Van Thai รวมระยะทาง69เมตรลอดใต้เนินเพื่อความปลอดภัยและเส้นทางลากปืนใหญ่ขึ้นเขาเพื่อสนับสนุนการต่อสู้ นอกจากนี้ยังมีร่องรอยอีกมากมายที่สะท้อนให้เห็นถึงความวีรอาจหาญและความปรีชาสามารถของผู้นำกองทัพดังเช่นท่านพลเอก หวอเงวียนยาบ ที่ยังคงได้รับการรักษาอย่างสมบูรณ์มาตราบเท่าทุกวันนี้

๔๘ปีได้ผ่านพ้นไปแต่ชัยชนะ เดียนเบียนฟูยังคงเป็นบทเพลงที่อมตะแห่งสติปัญาของคนเวียดนามในการต่อสู้แห่งการปฏิวัติ  ในช่วงเดือนพฤษภาคมแห่งประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นคนที่เคยเดินทางมาเที่ยวเดียนเบียนหลายครั้งหรือเป็นครั้งแรกก็ตามแต่ทุกคนต่างมีความรู้สึกประทับใจเมื่อได้เยี่ยมชมผืนแผ่นดินแห่งนี้./.  

Komentar