( VOVworld )- หลักพรมแดนทางทะเลที่ยืนยันอธิปไตยของเวียดนามเหนือหมู่เกาะเจื่องซาหรือสเปรสลี่คือสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ของเวียดนามบนหมู่เกาะแห่งนี้และก็เป็นจุดนัดพบจุดแรกของนักท่องเที่ยวเมื่อมาเยือน  สำหรับชาวเวียดนามนั้น หลักพรมแดนดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการยืนยันอธิปไตยของประเทศเหนือหมู่เกาะเจื่องซาหรือสเปรสลี่เท่านั้น หากยังถือเป็นอนุสาวรีย์อันเป็นการแสดงออกถึงความเคารพและสำนึกในบุญคุณของชาวเวียดนามทุกคนต่อคนรุ่นก่อนๆที่ได้สละชีวิตและเลือดเนื้อเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศเหนือทะเลและเกาะแก่ง

ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนาม ณ หลักพรมแดนบนเกาะเจื่องซาเลิ้น ( VOV5 )

เกาะเจื่องซาเลิ้น จังหวัดแค้งหว่าอยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่หลายร้อยไมล์ทะเล  มองจากระยะไกลจะสามารถเห็นธงชาติโบกสะบัดและหลักพรมแดนอธิปไตย์ท่ามกลางท้องฟ้าสีครามใส เมื่อเดินขึ้นบนเกาะต้องผ่านสะพานยาวและสิ่งที่สร้างความภาคภูมิใจสำหรับชาวเวียดนามทุกคนคือ ซุ้มประตูที่ระบุคำว่า สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม  หลักพรมแดนอธิปไตยของเวียดนามตั้งอยู่กลางพื้นที่กลางแจ้งและได้รับการก่อสร้างให้สูงอย่างสง่าผ่าเผยและถาวรทนกับกาลเวลา  ด้านบนสุดของหลักพรมแดนสี่เหลี่ยมคางหมูกลับด้านสลักชื่อเต็มของประเทศคือ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ไล่ลงมาคือ ธงชาติสีแดงดาวเหลือง ๕ แฉกอยู่ตรงกลาง และไล่ลงมาอีกได้ระบุตำแหน่งของเกาะที่ลองติจูด ๘ องศา ๓๘ นาที ๓๐ วินาที  ลองจิจูด ๑๑๑องศา ๕๕ นาทีและ๕๕ วินาที  ฐานของหลักพรมแดน ๔ ด้านสลักรูปกลองมโหระทึกดึกดำบรรพ์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีระหว่างชนชาติต่างๆในผืนดินเวียดนาม  พันโทดิงห์วันห่าย ที่ประจำการบนเกาะเจื่องซาเลิ้นเปิดเผยว่า  “ เกาะเจื่องซาเลิ้นเป็นศูนย์กลางของตำบลเกาะต่างๆในหมู่เกาะเจื่องซา หลักพรมแดนที่เห็นอยู่ในปัจจุบันได้รับการก่อสร้างอย่างถาวรที่ทนกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพดินฟ้าอากาศ  บนเกาะยังมีกิจการก่อสร้างที่โดดเด่นเพื่อยืนยันอธิปไตยของเวียดนามคือ ธงชาติขนาดยักษ์ที่ทำจากเซรามิกที่สามารถทนทานกับกาลเวลา ธงชาติขนาดยักษ์นี้สามารถมองเห็นได้จากเครื่องบินหรือบนเรือจากระยะไกล ”

สำหรับทหารที่ประจำการบนเกาะเจื่องซานั้น ธงชาติและหลักพรมแดนที่ยืนยันอธิปไตยของประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์เพราะเป็นการยืนยันอธิ ปไตยของเวียดนามเหนือหมู่เกาะ เป็นสัญลักษณ์แห่งพลังอันแข็งแกร่งและสถานะของเวียดนามบนเวทีโลก อีกทั้งสะท้อนจิตใจ ความซื่อสัตย์และความเสียสละของทหาร  ธงชาติและหลักพรมแดนยังสะท้อนความเชื่อมั่น ความรักใคร่และช่วยเหลือจุนเจือของประชาชนทั้งประเทศต่อเจื่องซา  เกาะแต่ละแห่งในหมู่เกาะเจื่องซาไม่ว่าจะเป็นเกาะที่โผล่เหนือผิวน้ำหรือเกาะหินโสโครกเช่น เจื่องซาดง ซองตื๋อเตย  ซองตื๋อดง เกาะเถวี่ยนจ่าย  เกาะเตียนญือหรือเกาะนางฟ้าต่างปักธงชาติและปักหลักพรมแดนที่ระบุตำแหน่งละติจูดและลองจิจูด

ทหารบนเกาะเจื่องซา ( VOV5 )

ในบริเวณอาณาเขตหมู่เกาะเจื่องซายังมีประภาคาร ๘ แห่งซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการส่องแสงนำทางเพื่อช่วยเหลือการเดินเรือในทะเลเท่านั้น หากยังถือเป็นหลักพรมแดนที่ยืนยันอธิปไตยของเวียดนามเหนือทะเลและเกาะแก่ง ส่วนทหาร ชาวประมง พนักงานสถานีอุตุนิยมอุทกศาสตร์และผู้เฝ้าดูแลประภาคาร ยังถือเป็นหลักพรมแดนที่มีชีวิตที่กำลังปักหลักบนเกาะและทะเลเพื่อปกป้องทะเลอาณาเขตและเกาะแก่งของประเทศในทะเลตะวันออก

หลายปีทีผ่านมา พรรค รัฐบาลและประชาชนทั้งประเทศได้ให้ความดูแลและช่วยเหลือทั้งทรัพย์สินและจิตใจให้แก่ทหารและชาวเกาะโดยได้รณรงค์เปิดขบวนการต่างๆเพื่อเจื่องซา ส่วนกองเยาวชนคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์ได้รณรงค์ก่อสร้างรูปจำลองหลักพรมแดนเกาะเจื่องซา ณ โรงเรียนและท้องถิ่นต่างๆเพื่อประชาสัมพันธ์และให้ความรู้แก่คนรุ่นต่างๆเกี่ยวกับอธิปไตยของเวียดนามเหนือทะเลและเกาะแก่งอันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศ  โดยโรงเรียนมัธยมปลายโท้ตโน้ตหมายเลข ๒ เมืองเกิ่นเทอ ภาคใต้ของประเทศได้ก่อสร้างหลักพรมแดนตามหลักพรมแดนต้นฉบับของเกาะซองตื๋อเตย หลักพรมแดนจำลองนี้ สูง ๒.๒เมตร ฐานกว้าง ๓ เมตร และระบุตำแหน่ง ละติจูดและลองจิจูดด้วย พร้อมภาพเกี่ยวกับชีวิตของทหารบนเกาะ ครูฟานห่ายโจว์ หัวหน้ากองยุวชน Tien phong Ho Chi Minh (กองยุวชนเดินหน้าโฮจิมินห์ ) โรงเรียนโท้ตโน้ตหมายเลข ๒ เปิดเผยว่า  “ นับตั้งแต่ก่อสร้างหลักพรมแดนนี้ เด็กก็สนใจเรียนวิชาประวัติศาสตร์มากขึ้น ซึ่งเป็นวิธีการเรียนที่มีประสิทธิภาพมากกว่าการฉายภาพยนตร์หรือการใช้อุปกรณ์ต่างๆ  เด็กๆรู้สึกชอบมากขึ้น ”

ชาวเวียดนามทุกคนต่างถือทะเลและเกาะแก่งเป็นส่วนหนึ่งของผืนแผ่นดินเวียดนาม สำหรับนายเจิ่นวันซ้วต ทหารผ่านศึก ที่อาศัย ณ ตำบลหว่าห่าย เขต หงูแห่งเซิน นครดานังภาคกลางของเวียดนาม ที่เคยประจำการที่เกาะเจื่องซาดงเพื่อปกป้องเกาะแห่งนี้เป็นเวลา ๓ ปี ความทรงจำอันดีงามเกี่ยวกับช่วงเวลานั้นยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของเขาตลอดไป  ความรักระหว่างเพื่อนทหารและความรักที่มีต่อทะเลและเกาะแก่งของประเทศเป็นแรงบันดาลใจให้เขาก่อสร้างหลักพรมแดนจำลองในบริเวรบ้านของตัวเอง นายเจิ่นวันซ้วตคุยกับพวกเราว่า  “ ผมประจำการที่เกาะเจื่องซาดงตั้งแต่ปีค.ศ. ๑๙๘๔ ถึง ๑๙๘๗ ซึ่งเป็นช่วงที่แสนยากลำบาก เมื่อผมกลับแผ่นดินใหญ่ชีวิตบนเกาะก็ดีขึ้นมาก ผมจึงยิ่งคิดถึงเพื่อนทหารเป็นทวีคุณ ทหารที่เคยสู้รบเพื่อปกป้องเกาะยังไม่มีวันลืมช่วงเวลาที่แสนยากลำบากดังกล่าว  ผมก่อสร้างหลักพรมแดนแห่งนี้เพื่อเสาะหาเพื่อนทหารและอยากฝากถึงผู้ที่เดินผ่านบ้านผมว่า เจื่องซาหรือสเปรสลี่และหว่างซาหรือพาราเซลเป็นของเวียดนามซึ่งผมและเพื่อนทหารต้องสละเลือดเนื้อเพื่อปกป้องทุกตารางนิ้วของเกาะ ”

เกาะต่างๆที่เจื่องซาหรือสเปรสลี่ถือเป็นแนวป้องกันประเทศด่านหน้าที่ทหารแต่ละนายและสิ่งก่อสร้างแต่ละแห่งได้กลายเป็นหลักพรมแดนที่ยืนยันอธิปไตยของประเทศ  พวกเขามีความตั้งใจอย่างแน่วแน่และปักหลักเพื่อปกป้องทุกตารางนิ้วของประเทศ  ส่วนสำหรับชาวแผ่นดินใหญ่ก็มีใจมุ่งสู่เกาะเจื่องซาด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเททุกอย่างเพื่อภารกิจสร้างสรรค์และปกป้องอธิปไตยทางทะเลและเกาะแก่งของประเทศให้ได้ ./.