หมู่บ้านปลูกไม้ดอกไม้ประดับหวี่เค

To Tuan – Ngoc Anh – VOV5
Chia sẻ
( VOVworld )-หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับหวี่เค ตำบลเดี่ยนซ้า อำเภอนามจึก จังหวัดนามดิ่ง อยู่ห่างจากกรุงฮานอยไปทางทิศใต้ประมาณ ๑๐๐ กม. ที่นี่ปลูกไม้ดอกไม้ประดับมากว่า ๗๐๐ ปีแล้ว และได้กลายเป็นหมู่บ้านนิเวศวิทยาที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและชาวต่างประเทศจำนวนมาก

 
( VOVworld )-หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับหวี่เค ตำบลเดี่ยนซ้า อำเภอนามจึก จังหวัดนามดิ่ง อยู่ห่างจากกรุงฮานอยไปทางทิศใต้ประมาณ ๑๐๐ กม. ที่นี่ปลูกไม้ดอกไม้ประดับมากว่า ๗๐๐ ปีแล้ว และได้กลายเป็นหมู่บ้านนิเวศวิทยาที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและชาวต่างประเทศจำนวนมาก
หมู่บ้านปลูกไม้ดอกไม้ประดับหวี่เค - ảnh 1
ต้นบอนไซแบบโผล่ราก

เดินทางจากตัวเมืองนามดิ่งข้ามสะพานด่อกวานแล้วเดินต่อไปตามทำนบแม่น้ำห่งหรือแม่น้ำแดงประมาณ ๓ กม.ก็จะถึงพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์ด้วยไม้ดอก ไม้ประดับและไม้ผล นี่คือหมู่บ้านหวี่เค  ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ ๑ พันปี พื้นที่อันอุดมสมบูรณ์แห่งนี้ได้ทำให้ชาวบ้านมีความคิดริเริ่มเกี่ยวกับการปลูกไม้ดอกไม้ประดับจนกลายเป็นอาชีพที่ทำรายได้มากพอสมควรและเป็นที่รู้จักแพร่หลาย   บันทึกประวัติศาสตร์ระบุว่า หมู่บ้านหวี่เคได้รับการจัดตั้งขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ ๑๐ โดยนายพลเหงวียนกงแถ่งสมัยกษัตริย์โงเกวี่ยน  ท่านเป็นคนบุกเบิกและสร้างหมู่บ้าน ซึ่งยังมีร่องรอยการสร้างหมู่บ้านให้เห็นในปัจจุบันคือ วัดและศาลาประจำหมู่บ้าน ที่บูชาเทพเจ้าสองท่านคือ นายพลเหงวียนกงแถ่งและมหาเสนาบดีฝ่ายกลาโหมโตจูงตื่อ  คุณลุง เหงวียนวันตู๊ ที่ดูแลศาลาประจำหมู่บ้านหวี่เคเล่าให้เราฟังว่า  “ หนังสือบันทึกที่มาของหมู่บ้านหวี่เคที่มีมาแต่สมัยกษัตริย์เลจางตงปี ๑๕๗๒ ซึ่งได้ระบุถึงชีวะประวัติและคุณูปการของเทพเจ้าสองท่าน ซึ่งนายพลเหงวียนกงแถ่งเกิดปี ๙๑๗  หลังจากขับไล่ศัตรูผู้รุกรานออกจากประเทศอย่างสิ้นเชิงแล้ว ท่านเหงวียนกงแถ่งได้รับพระราชโองการให้มารับราชการ ณ พื้นที่แห่งนี้  ท่านได้นำชาวบ้านมาสร้างหมู่บ้านและตั้งชื่อว่า หมู่บ้านเหงวียนยาจาง  ส่วนมหาเสนาบดีโตจูงตื่อสมัยราชวงศ์หลีในโอกาไปราชการมาที่นี่เมื่อปี ๑๒๑๑ ได้สอนชาวบ้านกรรมวิธีการปลูกไม้ดอกและไม้ประดับ  ตั้งแต่นั้นมาอาชีพปลูกไม้ดอกไม้ประดับของหวี่เคก็พัฒนารุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบัน

หมู่บ้านปลูกไม้ดอกไม้ประดับหวี่เค - ảnh 2
การตัดแต่งไม้เป็นหอ Khue Van Cac หรือหออาศรมอักษรศาสตร์

หมู่บ้านหวี่เคยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมวัฒนธรรมและประเพณีพื้นเมืองต่างๆ  โดยในวันที่ ๔ และ๕ เดือนอ้าย ที่นี่จะมีงานเทศกาลของหมู่บ้านและที่น่าสนใจคือ การประกวดไม้ประดับของครอบครัวหรือตระกูลในหมู่บ้าน ซึ่งมีไม้ประดับที่มีรูปทรงหลากหลายและสวยงามเข้าร่วม อีกทั้งยังเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านและอาชีพปลูกไม้ประดับของบรรพบุรุษให้ชนรุ่นหลังสืบไป  เมื่อก่อนนี้ หมู่บ้านหวี่เคขึ้นชื่อในอาชีพการปลูกต้นส้มจิ๊ดเพื่อประดับบ้านช่วงเทศกาลปีใหม่ประเพณีของประเทศหรือเทศกาลตรุษเต็ต แต่เนื่องจากความต้องการของตลาดเปลี่ยนแปลงไป ชาวบ้านจึงหันมาปลูกไม้ประดับ ไม้บอนไซและไม้ประดับมงคลเพื่อประดับโรงแรม อาคารและส่งออก โดยต้นบอนไซมีหลายหลายชนิดแต่ส่วนใหญ่เน้นในต้นไม้มงคลไม่ว่าจะเป็นบอนไซแบบลำต้นตั้งตรง แบบลำต้นโน้มเอียง ลำต้นคู่ แบบตกกระถาง แบบกลุ่มกอ แบบโผล่รากและแบบหลายลำต้น ต้นบอนไซเหล่านี้ได้รับตัดแต่งอย่างประณีตสวยงามที่แฝงไว้ซึ่งปรัชญาตะวันออกและหลากหลายรูปทรงเช่น รูปหอไอเฟล เจดีโฝมิงห์ รูปนกอินทรีย์ นกยูงและหงษ์  จารีดของแต่ละตระกูลในหมู่บ้านได้ระบุถึงข้อกำหนดเกี่ยวกับอาชีพปลูกไม้ประดับคือ ต้องรู้จักตัดแต่งไม้ประดับเป็นรูปทรงต่างๆและรักษาเคล็ดลับนี้จากรุ่นต่อรุ่นจนกลายเป็นเอกลักษณ์วัฒนธรรมของหมู่บ้าน  นายเหงวียนวันเจี๊ยน นายกสมาคมไม้ประดับและสัตว์สวยงามหมู่บ้านหวี่เคเผยว่า   “ นี่คืออาชีพที่นำความสวยงามมาสู่ชีวิตประจำวัน ดังนั้นพวกเราต้องเป็นตัวอย่างในการดำรงชีวิตที่ดี ชาวบ้านทุกคนต้องพูดจาเรียบร้อย ไม่ดื่มเหล้า  เอาใจใส่ดูแลซึ่งกันและกัน  ส่วนในการประกอบธุรกิจนั้นแม้จะมีการแข่งขันแต่ต้องมีมารยาทในการแข่งขัน ทั้งนี้หมายถึงต้องมีความคิดสร้างสรรค์และสร้างผลงานที่สวยและมีคุณภาพ  ในการประกอบอาชีพปลูกต้นไม้ประดับนั้น พวกเรายังให้ความสนใจต่อการอนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมของที่นี่และของประเทศ รวมทั้งอนุรักษ์เกียรติประวัติของหมู่บ้านด้วย

หมู่บ้านปลูกไม้ดอกไม้ประดับหวี่เค - ảnh 3
สวนดอกไม้ที่ Vi Khe 

  ชาวบ้านหวี่เคยังเผยแพร่อาชีพปลูกไม้ประดับไปยังตำบลใกล้เคียง ดังนั้นอำเภอนามจึกได้กลายเป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับและไม้มงคลเชิงพาณิชย์  ทั้งนี้และทั้งนั้นได้ส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยกตัวอย่างเช่นใน ๓ ปีที่ผ่านมา แต่ละปีรายได้เฉลี่ยจากการขายดอกไม้และไม้ประดับของตำบลเดี่ยนซ้าอยู่ที่ประมาณ ๔ หมื่น ๕ พันล้านด่งหรือประมาณ ๖๔ ล้านบาท โดยเป็นของหมู่บ้านหวี่เคประมาณ ๓ หมื่น ๕ พันล้านด่งหรือประมาณ ๕๐ ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าการปลูกข้าว ๕ เท่า นอกจากขายในประเทศแล้ว ไม้ประดับของหวี่เคยังถูกส่งไปขายยังต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น    เหตุผลที่หมู่บ้านไม้ประดับหวี่เคพัฒนาอาชีพของบรรพบุรุษให้เจริญรุ่งเรืองนั้นก็เพราะชาวบ้านรู้จักถ่ายทอดและรักษาคุณธรรมและการเข้าอกเข้าใจคนอื่นให้แก่ลูกหลาน  ทั้งนี้เป็นเสน่ห์ดึงดูดลูกค้ามาเยี่ยมชมและซื้อต้นไม้ประดับอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง./.

หมู่บ้านปลูกไม้ดอกไม้ประดับหวี่เค - ảnh 4
ต้นบอนไซพร้อมต้นท้อ

หมู่บ้านปลูกไม้ดอกไม้ประดับหวี่เค - ảnh 5
ส่วนหนึ่งของสวนบอนไซ

หมู่บ้านปลูกไม้ดอกไม้ประดับหวี่เค - ảnh 6
รายได้จากการขายต้นบอนไซเพื่อสร้างบ้านที่สวยงาม

หมู่บ้านปลูกไม้ดอกไม้ประดับหวี่เค - ảnh 7

หมู่บ้านปลูกไม้ดอกไม้ประดับหวี่เค - ảnh 8
ต้นบอนไซแบลำต้นตั้งตรง

Komentar