(VOVworld) – หมู่บ้านควก ต.ฟองเจา อ.ดงฮึง ถือเป็นถิ่นกำเนิดของเพลงพื้นเมืองแจ่วในจังหวัดท้ายบิ่งเพราะเมื่อพูดถึงศิลปะการร้องเพลงแจ่วท้ายบิ่งคนทั่วไปมักจะพูดถึงแจ่วหมู่บ้านควกเพราะศิลปะพื้นเมืองนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่อาจขาดได้ในวิถีชีวิตของชาวท้องถิ่นและยังมีศิลปินหมู่บ้านควกจำนวนมากได้เข้าร่วมคณะแจ่วอาชีพในทุกระดับและนำเพลงพื้นเมืองแจ่วไปเผยแพร่แนะนำให้กับเพื่อนมิตรชาวต่างชาติ
|
เราได้มาชมการฝึกซ้อมของสโมสรแจ่วหมู่บ้านควกที่นำโดยศิลปินกาวถิเบิ๊ก สมาชิกทั้ง16คนของสโมสรนี้ล้วนเป็นคนท้องถิ่นที่มีความผูกพันกับเพลงแจ่วมาแต่กำเนิดและได้รับการถ่ายทอดศิลปะพื้นเมืองนี้จากศิลปินอาวุโสของหมู่บ้าน ศิลปิน กาวถิเบิ๊ก อายุ67ปี หัวหน้าสโมสรเผยว่า “ตอนแรกพวกเราก็แค่คิดว่าตั้งสโมสรเพื่อให้คนในหมู่บ้านเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆเพื่อความเพลิดเพลินและแสดงกันเองในงานเทศกาลต่างๆเท่านั้น แต่ต่อมาได้มีการพัฒนามากขึ้นและคนในท้องถิ่นอื่นๆก็รู้จักสโมสรของเรามากขึ้นและเมื่อมีงานเทศกาลเขาก็เชิญไปแสดง ซึ่งนับเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้เราเพราะแม้จะอายุมากแล้วแต่ก็ยังมีผู้ชมที่อยากชมการแสดงแจ่วของเรา ซึ่งสมาชิกทุกคนต่างมีความปรารถนาว่าจะนำเสียงเพลงพื้นเมืองแจ่วหมู่บ้านควกไปไกลกว่านี้เพื่อที่จะได้สังสรรค์กับท้องถิ่นอื่นๆที่รักเพลงแจ่วอีกด้วย”
เพื่อแนะนำสโมสรแจ่วหมู่บ้านควกสู่ประชาชนท้องถิ่นอื่นๆได้มีการสร้างแฟนเพจบนเฟสบุ๊คก์และอัพโหลดคลิปและแฟ้มเสียงบนยูทูปพร้อมคำบรรยายเกี่ยวกับศิลปะการแสดงแจ่วของหมู่บ้านควก ซึ่งศิลปินกาวถิเบิ๊กกล่าวว่านี่คือหนึ่งในวิธีประชาสัมพันธ์เพื่อให้ผู้คนได้รู้จักกับสโมสรแจ่วของหมู่บ้านมากขึ้นและได้ช่วยให้พวกเขาได้รับคำเชิญไปแสดงในท้องถิ่นอื่นๆมากขึ้น“มีหลายท้องถิ่นได้เชิญสโมสรของเราไปแสดงทุกปี มีทั้งคนต่างชาติที่ชอบค้นคว้าแจ่วก็มาหาเราเพื่อศึกษาข้อมูลและมาฝึกการร้องเพลงแจ่ว นอกจากนั้นก็มีบริษัททัวร์ที่ให้เราจัดแสดงบริการคณะนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยพร้อมทั้งมีการแลกเปลี่ยนสังสรรค์กัน”
สำหรับสมาชิกคนอื่นๆของสโมสรการร้องเพลงแจ่วหมู่บ้านควกอย่างนายหวูเลเญิม รองหัวหน้าสโมสรแม้จะไม่ใช่ศิลปินอาชีพแต่ก็ล้วนเป็นคนที่มีประสบการณ์และสามารถร้องเพลงแจ่วอย่างคล่องแคล้วจึงพร้อมที่จะไปแสดงให้ผู้ชมท้องถิ่นอื่นๆ“พวกเราประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักและก็มีบางคนทำการค้าขายแต่เมื่อมีงานก็จะพร้อมทุกเวลาและได้รวมตัวกันไปฝึกซ้อมเพราะเรารักและอยากส่งเสริมพัฒนาศิลปะพื้นเมืองนี้ต่อไป”
ส่วนนางแกวกถิทูสมาชิกอีกคนของสโมสรกล่าวว่าเธอรักและชอบการร้องเพลงแจ่วตั้งแต่เด็กแต่หลังจากที่ลูกๆมีครอบครัวแล้วเธอถึงจะมีเวลาเข้าร่วมสโมสรนี้“จากความหลงไหลในเพลงแจ่วมาตั้งแต่เด็กเราก็ตั้งใจที่จะผูกพันกับแจ่วมาตลอดจนถึงบัดนี้เมื่ออายุมากแล้วก็ยังรักเพลงแจ่วและอยากสอนให้ลูกหลานรู้จักเพื่อธำรงพัฒนาศิลปะการร้องเพลงแจ่วของหมู่บ้านต่อไปไม่ให้สูญหาย”