สุสานทหารพลีชีพเพื่อชาติเจื่องเซินในเดือนกรกฎาคม

Chia sẻ
( VOVworld )-สุสานทหารพลีชีพเพื่อชาติเจื่องเซินตั้งอยู่บนเนินเบ้นตั๊ต ตำบลหวิงเจื่อง อำเภอ ยอลิงห์ จังหวัดกว่างจี่ ภาคกลางของประเทศเวียดนาม เป็นที่ฝังศพทหารกว่า ๑ หมื่นนายที่เสียชีวิตในสงครามต่อต้านสหรัฐอเมริกาเพื่อกู้ชาติของประชาชนเวียดนาม  ในช่วงเดือนกรกฎาคมทุกปีที่มีการรำลึกทหารทุพพลภาพและสละชีพเพื่อชาติ ชาวเวียดนามได้หลั่งไหลกลับมาที่นี่เพื่อรำลึกถึงวีรชนผู้พลีชีพเพื่อการปลดปล่อยชาติรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียว อันเป็นการแสดงน้ำใจและเกียรติประวัติอันสูงส่งของประชาชาติเวียดนามคือ ดื่มน้ำต้องคิดถึงแหล่งที่มาของน้ำ  

( VOVworld )-สุสานทหารพลีชีพเพื่อชาติเจื่องเซินตั้งอยู่บนเนินเบ้นตั๊ต ตำบลหวิงเจื่อง อำเภอ ยอลิงห์ จังหวัดกว่างจี่ ภาคกลางของประเทศเวียดนาม เป็นที่ฝังศพทหารกว่า ๑ หมื่นนายที่เสียชีวิตในสงครามต่อต้านสหรัฐอเมริกาเพื่อกู้ชาติของประชาชนเวียดนาม  ในช่วงเดือนกรกฎาคมทุกปีที่มีการรำลึกทหารทุพพลภาพและสละชีพเพื่อชาติ ชาวเวียดนามได้หลั่งไหลกลับมาที่นี่เพื่อรำลึกถึงวีรชนผู้พลีชีพเพื่อการปลดปล่อยชาติรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียว อันเป็นการแสดงน้ำใจและเกียรติประวัติอันสูงส่งของประชาชาติเวียดนามคือ ดื่มน้ำต้องคิดถึงแหล่งที่มาของน้ำ  
สุสานทหารพลีชีพเพื่อชาติเจื่องเซินในเดือนกรกฎาคม - ảnh 1
อนุสาวรีย์พทหารพลีชีพเพื่อชาติ  (อินเตอร์เน็ต )

สุสานทหารพลีชีพเพื่อชาติเจื่องเซินเป็นกิจการก่อสร้างพิเศษเพื่อรำลึกและเชิดชูทหารพลีชีพเพื่อชาติที่ได้เสียชีวิตบนเส้นทางเจื่องเซินหรือทางเท้าโฮจิมินห์    สุสานนี้ได้รับการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๑๙๗๕ ถึงวันที่ ๑๐ เมษายน ๑๙๗๗ ในพื้นที่ ๑๔๐,๐๐๐ ตารางเมตร เป็นสถานที่ฝังศพทหารพลีชีพเพื่อชาติกว่า ๑๐,๐๐๐ แห่ง  สุสานแบ่งเป็น ๑๐ เขต แต่ละเขตมีลักษณะของแต่ละพื้นที่ ดูเสมือนสวนสาธานณะที่สวยงามท่ามกลางเทือกเขาเจื่องเซินอาทิเช่น ซุ้มประตู  บ้านรับรองแขก อนุสาวรีย์พทหารพลีชีพเพื่อชาติ พื้นที่ปลูกต้นไม้ บึงและเส้นทางเดินรถลาดยางมาตอย  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พนักงานดูแลซ่อมแซมสุสานและให้การต้อนรับทายาทของทหารพลีชีพเพื่อชาติ แขกทั้งในและต่างประเทศ นายโห่เติ๊ตอ๊าย หัวหน้าฝ่ายดูแลสุสานเจื่องเซินเผยว่า “ ช่วงนี้พวกเราได้ให้การต้อนรับแขกจากส่วนกลางถึงส่วนภูมิภาค องค์กรการเมืองสังคมในทั่วประเทศหลั่งไหลเข้ามาจุดธูปรำลึกถึงวีรชนผู้พลีชีพเพื่อชาติโดยไม่เห็นแก่ความเหน็จเหนื่อย  พวกเรากำลังร่วมมือกับจังหวัดหลายแห่งอาทิเช่น ห่ายเยือง ฮึงเอียน ห่าเตย กว่างนิงห์และนครหลวงฮานอยทำการซ่อมแซมกิจการก่อสร้างต่างๆภายในสุสานเพื่อทำให้ภูมิทัศน์ของที่นี่ดูสวยขึ้นและอากาศปลอดโปร่ง

สุสานทหารพลีชีพเพื่อชาติเจื่องเซินในเดือนกรกฎาคม - ảnh 2
จุดธูปรำลึกถึงวีรชนพลีชีพเพื่อชาติ ( อินเตอร์เน็ต )

เดือนกรกฎาคมที่สุสานเจื่องเซินเจ้าหน้าที่พนักงานดูแลที่นี่ทุกคนยังทำหน้าที่ของตัวเองอย่างขมักเขม้นท่ามกลางแสงแดดจัดของภาคกลาง  ซึ่งคุณเหงวียนถิ่แบ๊ เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ เธอได้ถือว่าเป็นผู้ที่ทำงานที่นี่นานที่สุด  เธอเคยเข้าร่วมการสู้รบอย่างดุเดือดที่เจื่องเซินและเห็นการเสียชีวิตอย่างกล้าหาญของเพื่อนร่วมรบหลายคน สงครามยุติลงเธอและสามีที่เป็นทหารทุพพลภาพได้ขอทำงานที่สุสานเจื่องเซิน    ๓๓ ปีที่ผ่านมา คุณเหงวียนถิ่แบ๊กับสามีได้ดูแลที่ฝังศพของทหารพลีชีพเพื่อชาติอันเป็นการรำลึกถึงส่วนอุทิศของผู้ที่ได้สละเลือดเนื้อโดยเฉพาะเพื่อนร่วมรบของเขา  คุณแบ๊คุยกับพวกเราว่า “ ดิฉันเคยเข้าเป็นทหารจึงเห็นอกเห็นใจต่อความลำบากยากเข็ญและศรัทธาต่อความเสียสละอันสูงส่งของพวกเขา  ปี ๑๙๗๙ ดิฉันได้ขอมาที่นี่เพื่อดูแลพวกป้าๆพี่ๆที่ได้สละชีพเพื่อมาตุภูมิ  ในนามประชาชนทุกคนจุดธูปรำลึกถึงพวกเขา
ช่วงนี้ที่สุสานเจื่องเซินแต่ละวันมีประชาชนนับหมื่นคนมาไว้อาลัยวิญญาณของวีรชนผู้พลีชีพเพื่อชาติ ซึ่งรวมทั้งเยาวชนด้วย พวกเขาเป็นนักเรียนและนักศึกษาที่อายุไล่เลี่ยกับทหารพลีชีพซึ่งเป็นวีรชนวัย ๒๐ ตลอดกาล  นายเหงวียนเวียดแอง ชาวฮานอยมาที่นี่เป็นครั้งแรก ท่ามกลางของหลุมฝังศพกว่า ๑ หมื่นแห่งที่ทาสีขาวได้เข้าใจถึงคุณค่าของเอกราชที่เธอกำลังอยู่ในปัจจุบัน เหวียตแองกล่าวว่า “ ผมรู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูกต่อความเสียสละอันสูงส่งของพวกพี่ๆทหาร ซึ่งบางคนเมื่อเสียชีวิตมีอายุเท่ากับผมในปัจจุบันหรือมากกว่านี้หน่อย  พวกเขาพร้อมสละชีวิตอย่างหาญกล้าเพื่อปกป้องบ้านเกิดและประเทศเพื่อชีวิตที่สงบสุขในปัจจุบัน
สุสานทหารพลีชีพเพื่อชาติเจื่องเซินในเดือนกรกฎาคม - ảnh 3
จุุดเธียนไว้อาลัยดวงวิญญาณของผู้สละชีพเพื่อชาติ ( อินเตอร์เน็ต )

สงครามได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว แต่ความปวดร้าวยังคงสถิตอยู่ในดวงใจของชาวเวียดนามหลายล้านคน ที่นี่เป็นที่ประจักษ์พยานทั้งชัยชนะ ความเสียสละและน้ำตา แต่เหนือกว่าสิ่งอื่นใดคือ คุณค่าของความเสียสละของทหารพลีชีพเพื่อชาติเพื่อความสงบสุขของประชาชนและประเทศในปัจจุบัน ./.

Komentar