( VOVword )-
เมืองบวนมาถวดจังหวัดดั๊กลั๊ก ในเขตที่ราบสูงเตยเงวียนของเวียดนามเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นเมืองแห่งกาแฟของเวียดนาม ที่นี่ชาวบ้านปลูกกาแฟ แปรรูปกาแฟและดื่มกาแฟเป็นประจำทุกวันจนมีร้านกาแฟหนาแน่นนับไม่ถ้วน หากท่านดื่มกาแฟวันละร้านก็ต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งปีถึงจะดื่มได้ครบทุกร้าน
ร้านกาแฟวันวานกับปัจจุบัน
ถนนทุกสายของเมืองบวนมาถวดล้วนมีร้านกาแฟที่มีชื่อโรแมนติกมากมายเช่น ยามพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า แสงพระจันทร์ ป่าแห่งสีเขียว ดอกมีโมซ่า บางร้านตั้งอยู่ในสวนไม้เพื่อบริการลูกค้าที่ชอบความสงบและมีชื่อเรียบง่ายเช่น ไม้ไผ่ซางเขียว ซอยและวันวานกับปัจจุบัน และยังมีร้านกาแฟไว้บริการเฉพาะวัยรุ่นที่บรรยากาศคึกคักด้วยแสงไฟระยิบระยับและเสียงดนตรี และมีชื่อเรียกความสนใจของวัยรุ่นเช่น ดวงอาทิตย์ ร็อค และเมโลดี
หมู่บ้านกาแฟจูงเงวียนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวเมืองบวนมาถวด โดยตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองบวนมาถวดในพื้นที่ ๒๐,๐๐๐ ตารางเมตร นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเตยเงวียนเพราะมีสถาปัตยกรรมที่เป็นอัตลักษณ์ของชนเผ่าในเตยเงวียน หมู่บ้านกาแฟจูงเงวียนถูกออกแบบเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของการพัฒนาของต้นกาแฟในโลกและในเวียดนามเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาและเข้าใจกาแฟของโลกและของเวียดนาม มาหมู่บ้านกาแฟนักท่องเที่ยวจะได้ลิ้มลองรสชาติกาแฟอร่อยหลากหลายสไตล์ไม่ว่าจะเป็นกาแฟเวียดนามที่อร่อยแบบดั้งเดิมและกาแฟสไตล์สมัยใหม่เช่น คาปูชิโน ลาเต้ ลามูร์ มาเทอร์ แลนด์ และเรดโรส์ อีกทั้งได้รับฟังการบรรยายเกี่ยวกับวัฒนธรรมกาแฟที่เป็นอัตลักษณ์ของหลายประเทศในโลกเช่น เอธิโอเปีย ตุรกี กาแฟซีฟอนและอิตาลี่ โดยกาแฟเวียดนามและกาแฟจูเงวียนมีหลายประเภทเช่น กาแฟขี้ชะมด การแฟเลเจ้นท์หรือกาแฟแห่งตำนาน การแฟแห่งความคิดสร้างสรรค์ กาแฟจี-๗และกาแฟสด ที่นี่ยังเผยแพร่วิธีการชงกาแฟและการลิ้มลองกาแฟที่พิเศษของชนเผ่าในพื้นที่เตยเงวียน คุณเฮอแทง เกอเปอน ชนเผ่าเอเด ที่เป็นผู้บรรยายของหมู่บ้านกาแฟจูงเงวียนเปิดเผยว่า “ แถวบ้านดิฉันเมื่อเก็บกาแฟเสร็จก็นำไปตากแดดให้แห้งแล้วใส่ครกตำจนเปลือกออกแล้วนำเม็ดกาแฟไปคั่ว เสร็จแล้วบดเป็นผง ใส่ถุงกรองและใส่น้ำน้อน กาแฟที่ชงแบบนี้เรียกว่า กาแฟคอ ”
หมู่บ้านกาแฟจูงเงวียน
ชาวบ้านมักจะดื่มกาแฟที่ทำเอง พวกเขาเลือกเม็ดกาแฟเอง โดยเก็บเม็ดกาแฟสุกสีแดงสมบูรณ์แล้วนำไปตากแห้ง ปอกเปลือกออกแล้วบดต่อจากนั้นจะนำไปปรุงตามรสชาติที่ต้องการ การปรุงกาแฟนั้นต้องรู้จักเคล็ดลับการควบคุมไฟให้ได้รสหอมและอร่อย เพื่อบริการลูกค้าที่เป็นคอกาแฟสดจากธรรมชาติ ร้านกาแฟหลายแห่งในบวนมาถวดได้ทำเองตั้งแต่การคั่ว บดและชงกาแฟ นายหวูวันเดียป ที่กำลังดื่มกาแฟในร้านโหมก ใจกลางเมืองบวนมาถวดกล่าวว่า “ กาแฟที่ถือว่าหอมอร่อยต้องเป็นกาแฟบริสุทธิ์ ที่มีรสขมและฝาดนิดหน่อย เมื่อดื่มเข้าไปรู้สึกอร่อยและตาสว่าง กาแฟบริสุทธิ์นี้ต้องซื้อแล้วคั่วกับบดเองจึงจะอร่อย ”
ร้านกาแฟไม้ไผ่ซางเขียว
การดื่มกาแฟทุกเช้าเป็นความเคยชินของชาวบวนมาถวดดังนั้นร้านทุกแห่งมักจะมีคนมาอุดหนุนอย่างอุ่นหนาฝาคั่งตั้งแต่เช้าตรู่ นั่งดื่มกาแฟท่ามกลางอากาศเย็นๆพร้อมกลิ่นหอมกาแฟและเพลงรักที่โรแมนติกทำให้จิตใจสงบลงและปล่อยภวังค์ไปกับสิ่งแวดล้อมธรรมชาติของเขตที่ราบสูงแห่งป่าเขาลำเนาไพร
สาธิตทำกาแฟแบบดั้งเดิม
เครื่องชงกาแฟเก่า
นักท่องเที่ยวจะได้ดื่มกาแฟหอมอร่อยในหมู่บ้านกาแฟจูงเงวียน
ต้นกาแฟโบราณ
ดอกกาแฟ