( VOVworld )-
ในนครโฮจิมินห์มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ แผ่นดินและคนเวียดนาม โดยมีพิพิธภัณฑ์ร่องรอยสงครามรวมอยู่ด้วย
พิพิธภัณฑ์ร่องรอยสงครามเลขที่ ๒๘ ถนนหวอวันเติ่น เขต ๖ นครโฮจิมินห์เป็นสถานที่จัดแสดงหลักฐานเกี่ยวกับสงครามในเวียดนามที่ฝรั่งเศสและสหรัฐก่อสขึ้นใน ๒๑ ปีตั้งแต่ปีค.ศ.๑๙๕๔-๑๙๗๕ ตอนเริ่มจัดตั้งเมื่อวันที่ ๔ กันยายนค.ศ.๑๙๗๕ พิพิธภัณฑ์เป็นอาคารจัดแสดงสิ่งของวัตถุเกี่ยวกับโทษกรรมสงครามต่อมาได้เปลี่ยนเป็นชื่อพิพิธภัณฑ์ร่องรอยสงครามจนถึงทุกวันนี้ ปี ๒๐๐๒ ได้มีการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ใหม่ตามสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์โดยมีตึกตั้งอยู่ในบริเวณกว้างเหมาะสำหรับการจัดแสดงสิ่งของวัตถุและเป็นการอนุรักษ์เอกสารกับสิ่งของวัตถุที่จัดแสดงที่อาจเสียหายจากแสงธรรมชาติ นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์ยังเป็นสถานจัดกิจกรรมต่างๆมากมายจึงมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเที่ยวชมอย่างไม่ขาดสาย ท่านหวิ่งหงอกเวินผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์เปิดเผยว่า “ เฉลี่ยแต่ละวันมีผู้เข้าชมประมาณ ๒ แสนคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ส่วนชาวเวียดนามมักจะมาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และจะมีผู้เช้าชมมากที่สุดในฤดูร้อน ”
พิพิธภัณฑ์แบ่งเป็นสองโซนจัดแสดงได้แก่ โซนจัดแสดงกลางแจ้งและโซนจัดแสดงภายในอาคาร โดยโซนจัดแสดงกลางแจ้งได้จัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐอเมริกาเช่น เครื่องบินไอพ่น เครื่องบินสอดแนม เครื่องบินเฮลิคอปเตอรที่ลำเลียงทหาร รถถัง กระสุนปืน ระเบิดและระเบิดเวลา ส่วนโซนจัดแสดงภายในอาคารได้จัดแสดงสิ่งของวัตถุ และรูปภาพ ๑ หมื่น ๕ พันชิ้นรวมทั้งภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับสงครามต่อต้านฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกาผู้รุกราน สงครามชายแดนทางทิศตะวันตกภาคใต้และสงครามปกป้อวชายแดนภาคเหนือ ตลอดจนรูปภาพข่าวเกี่ยวกับสงครามเช่น การฆ่าหมู่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ภาพการโปรยสารพิษเคมีในภาคใต้ การทิ้งระเบิดปูพรมเพื่อทำลายภาคเหนือ พร้อมกับอุปกรณ์ทรมาณจำลองเช่น กรงเสือที่ขังนักโทษ อุปกรณ์ทรมาณและเครื่องตัดศรีษะซึ่งได้สร้างความโกรธแค้นอย่างบอกไม่ถูก
ภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีห้องหนึ่งที่มีชื่อว่า “ หวนนึกถึงอนุสรณ์ ” ที่ดึงดูดใจผู้เช้าชมมากที่สุด โดยเฉพาะชาวต่างชาติ คุณทูเซือนผู้บรรยายของพิพิธภัณฑเปิดเผยว่า “ ห้องนี้จัดโดยชาวอังกฤษและเยอรมันโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรำลึกถึงเพื่อนของพวกเขา มีรูปภาพสองภาพที่ทำให้ผู้เข้าชมเข้าใจความมุ่งมั่นและพลังอันแข็งแกร่งแห่งความเที่ยงธรรมของคนเวียดนามในสงครามต่อต้านสหรัฐอมริการโดยสหรัฐใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย ส่วนทหารเวียดนามเดินเท้าจากภาคเหนือเข้าภาคใต้พร้อมอาวุธที่เรียบง่าย แต่สามารถรบชนะในที่สุด ”
ส่วนชั้นสองมีห้องจัดแสดงภาพวาดของเด็ก ห้องมีชื่อว่า “ นกพิราบสีขาว ” โดยจัดแสดงภาพวาดของเด็กเกี่ยวกับความรักบ้านเกิด รักประเทศ รักปู่ย่าตายายและพ่อแม่ ซึ่งสะท้อนความฝันที่เรียบง่ายของเด็กคือ จะได้อยู่ในประเทศที่มีสันติภาพ ได้ไปโรงเรียนและทำในสิ่งที่ตนชื่นชอบ ภาพวาดของเด็กไร้เดียงสาพร้อมกับรูปภาพโศกเศร้าของสงครามทำให้ผู้เข้าชมสัมผัสถึงความปวดร้าวและความสูญเสียตลอดจนความปรารถนาที่จะได้อยู่ในบรรยากาศแห่งความสงบสุขของคนเวียดนาม
ผู้เข้าชมร้อยละ ๗๐ เป็นชาวต่างชาติ พวกเขามาเพื่อศึกษาเกี่ยวกับสงครามในเวียดนาม เพื่อเข้าใจความสูญเสียและความเสียสละของคนเวียดนามที่ไม่มีสิ่งใดอาจชดเชยได้ สมุดเยี่ยมหลายสิบเล่มที่ผู้เข้าชมได้เขียนเกี่ยวกับความรู้สึกนึกคิดของตนนั้นก็เป็นสิ่งของวัตถุที่ทรงคุณค่าของพิพิธภีณฑ์ โดยมีนักท่องเที่ยวจากสวิสเซอร์แลนด์ได้เขียนว่า “ ผมมาจากประเทศที่สวยงามที่ไม่เคยเผชิญสงคราม ขอแสดงความคิดเห็นว่า ขอให้นักการเมืองและผู้นำที่มีแผนจะทำสงครามและบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องกับสงครามมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์นี้แล้วพิจารณาอีกครั้ง สันติภาพ สันติภาพและสันติภาพ ”
พิพิธภัณฑ์ร่องรอยสงครามเป็นเป็นสถานทีท่องเที่ยวหนึ่งในสิบแห่งที่ได้ระบุในรายการท่องเที่ยว “ นครโฮจิมินห์-สิ่งที่น่าสนใจ ๑๐๐ รายการ ” และเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งเดียวของเวียดนามที่ถูกระบุในรายชื่อพิพิธภัณฑ์เพื่อสันติภาพกว่า ๖๐ แห่งขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ พิพิธภัณฑ์ร่องรอยสงครามเป็นสถานที่เรียกร้องสันติภาพในแก่โลกใบนี้ ./.