โครงการดนตรี “สามัคคี” สร้างความเชื่อมโยงระหว่างเยาวชนเวียดนาม-ลาว

Minh Duc
Chia sẻ
(VOVWORLD) -ภายหลังเวลา 3 ปีกับยอดวิวบนยูทูปมากกว่า 2 ล้านวิว จนถึงปัจจุบัน ยังคงมีคนรุ่นใหม่หลายคนที่รู้จักมิวสิควิดีโอ “ผู้สาวเวียงจันทน์” ของนักร้อง-นักแต่งเพลงหนุ่มวัย 23 ปี บุ่ยต๊วนหงอก ซึ่งได้แต่งขึ้นมาเพื่อมอบให้แก่เยาวชนเวียดนาม-ลาว  ด้วยความประสงค์ที่จะใช้ดนตรีเป็นสะพานเชื่อมระหว่างเยาวชนทั้งสองประเทศ บุ่ยต๊วนหงอก ได้แต่งเพลงและมิวสิควิดีโอใหม่ๆ ให้แก่เยาชนในปี 2023-2024 ผ่านโครงการดนตรีที่มีชื่อว่า “สามัคคี” เพื่อกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพพิเศษเวียดนาม-ลาวให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
โครงการดนตรี “สามัคคี” สร้างความเชื่อมโยงระหว่างเยาวชนเวียดนาม-ลาว - ảnh 1นักร้องหนุ่ม บุ่ยต๊วนหงอก
 
ในวันนี้เรามาพบกับนักร้องหนุ่ม บุ่ยต๊วนหงอก ท่ามกลางฤดูใบไม้ร่วงของกรุงฮานอยในยามเช้า พร้อมทรงผมที่นุ่มพริ้วและน้ำเสียงที่อบอุ่นเช่นเดิม แต่มีแนวความคิดดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วง 3 ปีก่อนสมัยยังเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยวัฒนธรรมและศิลปะการทหาร ปัจจุบัน บุ่ยต๊วนหงอก เป็นเลขาธิการกองเยาวชนคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์ของโรงละครดนตรีและนาฏศิลป์กองทัพสังกัดสํานักงานการเมืองทั่วไปของกระทรวงกลาโหมเวียดนาม เขาเผยว่า หน้าที่ความรับผิดชอบของเยาวชนเวียดนามคือการอุทิศตนและมีส่วนร่วมเผยแพร่เสียงเพลงและชุดการแสดงเต้นรำ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทหารกับพลเรือน รวมถึงความสัมพันธ์มิตรภาพพิเศษเวียดนาม-ลาว

“เมื่อผมได้เดินทางไปแลกเปลี่ยนและแสดงในประเทศลาว แล้วมีการพบปะกับเยาวชนที่นั่น มีเพื่อนๆ คนรุ่นใหม่หลายคนรู้จักเพลง ผู้สาวเวียงจันทน์ ซึ่งทุกคนต่างให้กำลังใจและหวังว่าผมจะแต่งเพลงใหม่อีกหลายเพลงเกี่ยวกับความรักเวียดนาม-ลาว ด้วยเหตุนั้น ผมตั้งใจว่าจะต้องเขียนเพลงที่มีเนื้อหาที่ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ อย่างในเพลง ผู้สาวเวียงจันทน์ ทุกคนจะได้ฟังประโยค สบายดี ซึ่งแปลเป็นภาษาเวียดนามว่า ซินจ่าว แต่ผมอยากให้ความสำคัญไปมากกว่านั้นคือ สามัคคี ซึ่งมีความหมายในภาษาเวียดนามว่า ดว่านเก๊ด หรือความเชื่อมโยงกัน เพื่อสานสัมพันธไมตรีให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น”

ปัจจุบัน มีคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่มีแนวโน้มติดตามเพลงเกี่ยวกับความรักและชีวิตประจำวัน แต่กลับไม่ค่อยสนใจบทเพลงดั้งเดิม ดังนั้น ในโครงการดนตรี “สามัคคี” เพลงต่างๆ ที่ บุ่ยต๊วนหงอก ได้แต่งขึ้นมาให้แก่คนรุ่นใหม่จะมีทำนองที่โดนใจ เนื้อเพลงที่ไม่ซับซ้อนและจำง่าย ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ฟังที่หลากหลายและประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมสู่คนรุ่นใหม่ในวงกว้าง

“หลังจากได้เดินทางไปประเทศลาวถึง 4 ครั้ง ผมหวังว่า เพลงต่างๆ ที่ตัวเองได้แต่งขึ้นมาจะต้องมีความเป็นส่วนรวมมากขึ้น อีกทั้งสามารถสร้างคุณค่าในงานเทศกาลแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม อย่างเพลง สามัคคี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกัน ด้วยเนื้อเพลงที่เรียบง่าย ซึ่งทุกคนฟังแล้วจดจำได้ไม่ยาก เมื่อเนื้อเพลงสามารถเข้าถึงจิตใต้สำนึกของผู้ฟังที่ชื่นชอบดนตรี ก็จะสามารถสร้างคุณค่าทางวัฒนธรรมในชุมชนและความสามัคคีระหว่างกันให้มากขึ้น”

โครงการดนตรี “สามัคคี” สร้างความเชื่อมโยงระหว่างเยาวชนเวียดนาม-ลาว - ảnh 2คุณ Phoumphithat Oupaseuth เจ้าของช่องยูทูป Xóm Lào TV

คาดว่า จะมีนักร้องรุ่นใหม่ชื่อดังหลายคนจากทั้งสองประเทศร่วมกันแสดงในโครงการดนตรี “สามัคคี” ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Phoumphithat Oupaseuth หนุ่มลาวที่กำลังใช้ชีวิตอยู่ในเวียดนามและเป็นเจ้าของช่องยูทูป Xóm Lào TV ที่มีการเผยแพร่เกี่ยวกับวัฒนธรรมและอาหาร โดยจะร่วมทำมิวสิควิดีโอใหม่ๆ กับ บุ่ยต๊วนหงอก Phoumphithat เผยว่า จะช่วยประสานกลุ่มนักร้องรุ่นใหม่ชื่อดังของลาวในการทำเพลงใหม่ 2-3 เพลงร่วมกับ ต๊วนหงอก ด้วยสไตล์การแสดงที่หลากหลาย เช่น การแสดงในงานพบปะสังสรรค์ การแสดงร่วมกับนักร้องรุ่นใหม่ชื่อดังของลาว หรือเพลงที่ร่วมกันแสดงระหว่างเยาวชนเวียดนามและลาว ซึ่งเพลงต่างๆ ในมิวสิควิดีโอ “สามัคคี” จะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2023 และต้นปี 2024

“ผมและหงอกได้คุยกันแล้วและมีไอเดียว่าจะร่วมกันทำมิวสิควิดีโอในรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นดนตรีสำหรับคนรุ่นใหม่แต่ยังคงเต็มเปี่ยมด้วยความสัมพันธ์มิตรภาพพิเศษลาว-เวียดนาม ถ้าหากเป็นไปได้  ก็ถือเป็นก้าวใหม่ในการแต่งเพลงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ลาว-เวียดนาม ปัจจุบัน เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณสำหรับการผลิตมิวสิควิดีโอ ดังนั้น จึงยังอยู่ระหว่างขั้นเตรียมการและหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงาน องค์กรธุรกิจ และบุคคลต่างๆ ให้แก่โปรเจคนี้”

ทั้งนี้ เพลงเวียดนาม-ลาวหลายเพลงที่มีชื่อเสียง ซึ่งมักจะมีการแสดงในงานแลกเปลี่ยนต่างๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่แต่งขึ้นโดยคนรุ่นก่อน แต่สำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน รสนิยมทางดนตรีมีการเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น โครงการมิวสิกวิดีโอ “สามัคคี” กับบทเพลงที่มีทำนองร่าเริง แจ่มใส และมีความหมาย สามารถขับร้องได้ทุกเมื่อ ควบคู่กับเนื้อเพลงที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์มิตรภาพพิเศษเวียดนาม-ลาว จะช่วยให้กลุ่มคนรุ่นใหม่เข้าถึงได้ง่าย ซึ่งในอนาคต พวกเขาก็จะเป็นผู้รักษาความสามัคคีและมิตรภาพอันดีงามระหว่างสองชนชาติให้คงอยู่ตลอดไป.

Komentar