เปิดจุดผ่านแดนนานาชาติลาไล(กว๋างจิ่เวียดนาม)–สารวัน(ลาว)

Chia sẻ
(VOVworld) –  เปิดจุดผ่านแดนนานาชาติลาไล(กว๋างจิ่เวียดนาม)–สารวัน(ลาว)
เปิดจุดผ่านแดนนานาชาติลาไล(กว๋างจิ่เวียดนาม)–สารวัน(ลาว) - ảnh 1
ท่านฝ่ามบิ่งมินห์ รองนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมและตัดริบบิ้นเปิดจุดผ่านแดนลาไล(Photo: VOV)

(VOVworld) –  เช้าวันที่๒๕เดือนนี้ ท่านฝ่ามบิ่งมินห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามและท่านทองลุน ศรีสุลิตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศลาวได้เข้าร่วมและตัดริบบิ้นเปิดจุดผ่านแดนลาไลกว๋างจิ่(ประเทศเวียดนาม)–สารวัน(ประเทศลาว)  ในการนี้ ท่านฝ่ามบิ่งมินห์ได้กล่าวว่า การเปิดจุดผ่านแดนนี้เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญ แสดงให้เห็นอย่างมีชีวิตชีวาเกี่ยวกับสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านาน ความสามัคคีพิเศษ ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศและย้ำว่า“จุดผ่านแดนนานาชาติลาไล– สารวันจะมีส่วนร่วมผลักดันการพัฒนาระบบจุดผ่านแดนตามแนวชายแดนระหว่างสองประเทศและเปิดโอกาสความร่วมมือใหม่ทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและการค้าระหว่างจังหวัดต่างๆทางภาคกลางเวียดนามกับแขวงต่างๆในภาคกลางตอนใต้ลาวและภาคอีสานของไทย อีกทั้งมีส่วนร่วมดึงดูดการลงทุนของทั้งสองประเทศและนานาประเทศในภูมิภาคนี้ สร้างเงื่อนไขล่วงหน้าให้แก่การปรับปรุงแผนพัฒนาระบบจุดผ่านแดนระหว่างสองประเทศให้มีความสมบูรณ์และสนับสนุนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิตะวันออกตะวันตก”

            จนถึงปัจจุบัน แนวชายแดนเวียดนาม–ลาวมีความยาวกว่า๒พันกิโลเมตรพร้อมจุดผ่านแดนนานาชาติ๘แห่งที่มีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจสังคม รักษาความมั่นคง กลาโหม ตอบสนองความต้องการสัญจร ความร่วมมือทางการค้าและการนำเข้าส่งออก ระหว่างจังหวัดชายแดนต่างๆของทั้งสองประเทศเพื่อการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของประชาชนทั้งสองประเทศ

โอกาสนี้ ท่านฝ่ามบิ่งมินห์และท่านทองลุน ศรีสุลิตได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคี ปัญหาภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน ชื่นชมการที่ทั้งสองฝ่ายได้พยายามทำการปักปันหลักพรมแดน เพิ่มความหนาแน่นและซ่อมแซม ยกระดับจุดผ่านแดนโดยเน้นจุดผ่านแดนนานาชาติลาไลเพื่อผลประโยชน์ของรัฐบาลและประชาชนทั้งสองประเทศ เกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออก รองนายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนที่นับวันยิ่งมีความซับซ้อนในทะเลตะวันออกชื่นชมประเทศอาเซียนที่ได้ออกแถลงการณ์ของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเกี่ยวกับสถานการณ์ทะเลตะวันออกเมื่อเดือนพฤษภาคมปี๒๐๑๔ เรียกร้องให้ขยายความสามัคคีอาเซียน ร่วมกันมีเสียงพูดร่วมในปัญหาความมั่นคงและการพัฒนาของภูมิภาคบนพื้นฐานของการปฏิบัติตามกฎหมายสากล./.


Komentar