เมื่อวันที่ 31 ธันวาคมปี 2015 ประชาคมอาเซียนได้รับการจัดตั้งอย่างเป็นทางการและกลายเป็นองค์การเดียวที่มีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในความหลากหลายซึ่งอนุญาตให้แรงงานที่มีฝีมือดีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถเคลื่อนย้ายไปทำงานในกลุ่มได้อย่างเสรีและหางานทำผ่านข้อตกลงร่วมกันโดยก่อนอื่นใน 8 แขนงอาชีพ ประกอบด้วย ทันตแพทย์ พยาบาล ช่างเทคนิค การก่อสร้าง สถาปัตยากรรม การบัญชี การสำรวจและการท่องเที่ยว ข้อตกลงฉบับนี้ยังระบุว่า แรงงานต้องได้รับการฝึกอบรมและถ้าสามารถใช้ภาษาต่างประเทศได้อย่างคล่องแคล่ว โดยเฉพาะภาษาอังกฤษก็จะสามารถเคลื่อนย้ายไปทำงานได้อย่างอิสระมากขึ้น ในฐานะพลเมืองของประชาคมอาเซียน นักศึกษาเวียดนามก็มีความฝันเกี่ยวกับอาชีพของตน นาย หวอชี้แถ่ง จากโรงเรียนอาชีวะศึกษาหุ่งเวือง นครโฮจิมินห์และนาย หวูหว่ายนาม นักศึกษาจากวิทยาลัยการท่องเที่ยวฮานอยได้พูดถึงเป้าหมายการศึกษาและความใฝ่ฝันของตนว่า “สิ่งที่สำคัญคือก่อนอื่น ผมต้องยกระดับทักษะของตน ในการผสมผสานเข้ากับอาเซียน ผมต้องใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและมีทักษะวิชาชีพ”

“การผสมผสานเข้ากับอาเซียนช่วยให้ผมมีโอกาสหางานทำในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผมอยากไปทำงานในต่างประเทศเพราะจะมีทั้งโอกาสไปเที่ยวและเรียนรู้ประสบการณ์ของประเทศอื่นซึ่งในอนาคต ถ้ามีเงินพอผมจะเปิดร้านอาหารเวียดนามในต่างประเทศ”

ถึงกระนั้น สำหรับความได้เปรียบในการแข่งขัน แรงงานเวียดนามยังมีความได้เปรียบไม่มากนัก เช่น ปัจจุบัน จำนวนนักศึกษาเวียดนามที่ได้รับการฝึกอบรมภายในประเทศที่สามารถหางานทำในต่างประเทศได้ยังอยู่ในระดับต่ำ เยาวชนเวียดนามส่วนใหญ่ถ้าอยากทำงานในบริษัทข้ามชาติหรือไปทำงานในต่างประเทศต้องศึกษาในต่างประเทศหรือเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมระยะสั้นของศูนย์ต่างประเทศเพื่อเพิ่มความรู้นอกเหนือจากความรู้ที่ได้เรียนในโรงเรียนต่างๆของเวียดนาม ในทางเป็นจริง ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของแรงงานเวียดนามยังอยู่ในระดับต่ำในขณะที่มีแรงงานไม่กี่คนที่เรียนภาษาของประเทศสมาชิกอาเซียน เช่นไทย ลาวและกัมพูชาซึ่งสร้างอุปสรรคให้แก่การส่งออกแรงงานที่มีคุณภาพสูง นาย เหงียนเซิน ปลัดคณะกรรมการชี้นำระหว่างหน่วยงานเกี่ยวกับการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกสังกัดกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมได้เผยว่า“ผมก็เห็นด้วยกับความเห็นว่า พวกเรากำลังเสียเปรียบแรงงานต่างประเทศ ดังนั้นเราได้ย้ำถึงความต้องการปรับปรุงงานด้านการศึกษาและฝึกอบรมเพื่อยกระดับคุณภาพแรงงานของเวียดนาม ไม่ใช่เฉพาะภาษาต่างประเทศเท่านั้น หากยังรวมถึงคุณธรรมและทักษะการดำรงชีวิต พวกเราต้องสร้างสรรค์แถวขบวนแรงงานที่มีคุณภาพในทุกด้าน”

เพื่อยกระดับคุณภาพการฝึกอบรมในเวียดนาม มหาวิทยาลัยหลายแห่งได้ผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อช่วยให้นักศึกษาทราบถึงข่าวการรับสมัครงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดร. เหงียนแองทู รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเศรษฐกิจสังกัดมหาวิทยาลัยแห่งชาติฮานอยได้เผยว่า “ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยต่างๆมีความประสงค์ที่จะเพิ่มทั้งความรู้และทักษะให้แก่นักศึกษาเพื่อสามารถเข้าถึงงานในอนาคต เช่น ณ มหาวิทยาลัยเศรษฐกิจสังกัดมหาวิทยาลัยแห่งชาติฮานอยได้เชิญวิทยากรจากต่างประเทศมาเผยแพร่ความรู้ให้แก่นักศึกษาหรือจัดการฝึกอบรมและการทัศนะศึกษาให้แก่นักศึกษา ผู้ประกอบการ องค์กรและสำนักงานเพื่อเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นจริง นอกจากการเรียนวิชาชีพ พวกเรายังจัดการพบปะสังสรรค์กับนักศึกษาต่างประเทศ เช่นญี่ปุ่นและออสเตรเลียโดยเนื้อหาในการพบปะสังสรรค์จะเกาะติดสถานการณ์ของการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจอาเซียน”

ในการกล่าวถึงโอกาสของแรงงานเวียดนามเมื่อผสมผสานเข้ากับประชาคมอาเซียน คุณ เลหว่ายนาม จากบริษัท ANT Engineering ที่ดูแลลูกค้าย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ยืนยันว่า โอกาสให้แก่แรงงานที่มีทักษะความสามารถของเวียดนามยังอยู่ในระดับสูง“ปัจจุบัน ประเทศต่างๆ เช่นสิงคโปร์และมาเลเซียกำลังขาดแคลนแรงงานด้านเทคนิคเพราะพวกเขามีแรงงานทำงานในด้านธนาคารและการตลาดมากกว่า ถ้าทำงานในประเทศดังกล่าว แรงงานเวียดนามจะใช้เวลาปรับตัวเข้ากับการทำงานในด้านเทคนิคเป็นเวลา 6 เดือนเท่านั้นและนายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างเพียงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับการจ้างแรงงานในประเทศสิงคโปร์ ดังนั้นแรงงานเวียดนามจะมีโอกาสมากขึ้น”

ควบคู่กับการเปลี่ยนแปลงใหม่ในด้านการศึกษาและฝึกอบรม ตลอดจนความพยายามของนักศึกษา หวังว่า ความฝันของแรงงานเวียดนามคือ “ศึกษาในเวียดนามและทำงานในประชาคมอาเซียน” จะกลายเป็นความจริง.