น.ส. มรุธิดา บุญมงคล ชื่อเล่น เจน |
เมื่อพบกับเจนในครั้งแรก แฟนๆมักจะบอกว่า ทำไมหน้าเหมือนคุณ Lea Salonga นักร้องชาวฟิลิปปินส์ที่ร้องเพลงในแนวของ musical มากขนาดนี้ ใบหน้ากลมและผมดัดลอน เจนบอกว่า คุณ Lea Salonga เป็นศิลปินในดวงใจของเธอตั้งแต่เด็กๆ และตอนนี้ก็ยังชื่นชอบอยู่ เจนเรียนแนวเพลง musical เธอเกิดเมื่อปี 1986 เริ่มร้องเพลงในโรงเรียนมัธยม และในครอบครัวของเธอไม่ได้มีใครเป็นศิลปินแต่เธอก็มีความชื่นชอบในการร้องเพลง ส่วนเธอมีแววด้านศิลปะ ซึ่งอาจได้รับการถ่ายทอดจากคุณพ่อคุณแม่โดยเฉพาะคุณพ่อที่ชอบเล่นกีต้าและร้องเพลง “เจนเริ่มร้องเพลงตั้งแต่ตอนสมัยมัธยม ร้องที่งานโรงเรียน แล้วก็เริ่มเรียนการร้องเพลงครั้งแรกได้เรียนกับสถาบันดนตรีสยามกลการหรือว่า สถาบันยามาฮ่านั้นเอง แล้วได้มีการไปขออาจารย์ที่วิทยาลัย คือเจนเรียนที่วิทยาลัยนาฏศิลป์ ก็จะมีอาจารย์ทางด้านแขนงต่างๆอยู่แล้ว ทั้งร้องเพลง ดนตรี รำ ... เจนก็ได้ไปเรียนร้องเพลงกับครูที่สอนร้องเพลงในแนว classic”
ก่อนที่ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 2 นักร้องจากประเทศไทยในการเข้าร่วมการประกวดครั้งนี้ เจนเคยเป็นตัวแทนศิลปินไทยร่วมแสดงงาน ABU music festival 2014 ณ ประเทศศรีลังกา ร่วม concert สานสัมพันธ์ ไทย-บรูไน concert สานสัมพันธ์ ไทย-จีน เป็นนักร้องประสานเสียงของคณะนักร้องประสานเสียง The Bangkok Voices ที่มีผลงานในระดับนานาชาติ เป็นตัวแทน 1 ใน 6 จากประเทศไทยในการเข้าร่วมขับร้องประสานเสียงระดับอาเซียนในงาน 2014 Asian Youth Choir for One ณ ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี เป็นตัวแทนเผยแพร่วัฒนธรรมและบทเพลงไทยในงาน The One Asia Cultural Ambassador 2015 ณ ประเทศฟิลิปปินส์และเป็นตัวแทน 1 ใน 4 จากประเทศไทยในการเข้าร่วมขับร้องประสานเสียง Indonesia Youth Choir ที่ประเทศอินโดนีเซีย เธอยังได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันการขับร้องประสานเสียงครั้งแรกที่ประเทศจีนเมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว ผลงานต่างๆนี้มาจากความทุ่มเท ความหลงไหลและความพยายามอย่างเต็มที่ในการฝึกซ้อมเป็นเวลาหลายปี บางทีเธอก็รู้สึกท้อใจบ้าง
รับรางวัล "นักร้องมิตรภาพ" |
“การขับร้องประสานเสียง ยากมากค่ะ เพราะว่าเราจะต้องสามารถรับผิดชอบการร้องในไลน์ประสานหรือไลน์หลักของเราให้ได้ และจะต้องทำให้นักร้องหลายคนรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงการร้องบทเพลงประสานเสียงในหลากหลายแนวแพลง เช่น Classic, gospel, spirituals, pop, folk นอกจากนี้อย่างบทเพลง classic ยังแบ่งเป็นยุคต่างๆ ซึ่งมีวิธีการร้องที่ไม่เหมือนกันด้วยค่ะ บางครั้งการร้องเพลงก็ยากมาก โดยเฉพาะเทคนิคต่างๆในการร้องเพลงแต่ละเพลงไม่เหมือนกัน ทำให้บางครั้งเรารู้สึกว่าเราทำไม่ได้ ร้องเพลงนี้ไม่ได้ หรือร้องท่อนนี้ไม่ได้ซักที บางครั้งทำให้เสียงหายไปก็มี ก็เลยรู้สึกเครียดและท้อมากๆ จนถึงกับคิดอยากจะเลิกร้องเพลงค่ะ แต่สุดท้ายก็พยายามฝึกฝน และคอยให้กำลังใจตัวเองค่ะ แล้วก็สามารถที่จะผ่านความท้อตรงนั้นมาได้ค่ะ”
ในวันแข่งขันชิงชนะเลิศของการประกวดเสียงเพลงอาเซียน +3 นักร้องแต่ละคนมีสิทธิ์เลือกเพลงเองและเจนได้เลือกเพลง ในดวงใจนิรันดร์หรือ Still on my mind โดยให้เหตุผลว่า “บทเพลงนี้เป็นบทเพลงที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 แต่งเนื้อภาษาอังกฤษขึ้นเอง ซึ่งบทเพลงนี้ ความหมายของเพลงก็จะเป็นความรู้สึกของคนที่จากกันหรือว่าเลิกกันไปแล้วแต่ว่าเรายังคงมีความคิดถึงอยู่ ซึ่งในความหมายของเราอีกอย่างหนึ่งก็เพื่อเป็นอย่างที่เป็นรู้กันว่า ชาวไทยเพิ่งสูญเสียในหลวงของเรา เราก็เลยอยากนำบทเพลงนี้มาเพื่อที่จะรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 ของเรา ซึ่งบทเพลงนี้ก็เหมือนกับแทนว่า พวกเราจะยังคงมีในหลวงรัชกาลที่ 9 อยู่ในใจของพวกเราตลอดไปค่ะ”
การประกวดเสียงเพลงอาเซียน +3 ปี 2017 |
การแสดงของเจนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ชมชาวเวียดนาม คุณมายเฟือง ผู้ชมจากกรุงฮานอยให้ข้อสังเกตว่า “ดิฉันเห็นว่า การแสดงของคุณ มรุธิดา บุญมงคล ดีมาก เธอได้ใช้ใจในเพลงทำให้ผู้ฟังเห็นว่า มันลึกและมีอารมณ์ เมื่อฟังเธอร้อง ก็เหมือนว่าเรากำลังฟังเขาเล่าเรื่องที่สร้างความซาบซึ้งใจให้แก่ผู้ฟัง เมื่อทราบว่านี่เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 และผ่านการร้องเบาๆของนักร้องคนนี้ดิฉันก็สามารถเห็นถึงความรักและความเคารพของเธอต่อพระองค์ เหมือนกับว่า เธอเป็นตัวแทนของชาวไทยที่สะท้อนความรักและคิดถึงในหลวง วิธีการแสดงและการแต่งกายก็น่าประทับใจมาก นี่คือเหตุผลที่ทำให้เธอได้รับรางวัล “นักร้องมิตรภาพ”ในการประกวดครั้งนี้”
“สิ่งสำคัญที่ดีที่สุดในการที่ทำให้เรากลายเป็นนักร้องที่ดีที่สุด คิดว่าน่าจะเป็นผลมาจากการฝึกซ้อมแล้วก็การใช้ใจของเราในการร้องเพลงในแต่ละเพลงค่ะ ซึ่งก็เชื่อว่า ถ้าเกิดว่า เราใส่ความรู้สึกของเราไปในบทเพลง เชื่อว่า ท่านผู้ฟังน่าจะรับรู้ความรู้สึกของเราได้ดีค่ะ”
จากความพยายามเป็นอย่างมากเพื่อให้มีผลงานที่ดีที่สุด เจนบอกว่า แผนการของเธอ อย่างแรกเลยคิดว่า อยากจะพัฒนาตนเองเพื่อให้มีความสามารถและสามารถถ่ายทอดบทเพลงไปสู่ผู้ฟังได้อย่างดีที่สุด แล้วก็อยากที่จะเรียนต่อปริญญาโททางด้าน musical ด้วย การเป็นตัวแทน 1 ใน 2 จากประเทศไทยในการประกวดเสียงเพลงอาเซียน +3 ปี 2017 ก็เป็นโอกาสดีเพื่อให้เธอเก็บเกี่ยวประสบการณ์และเรียนรู้ต่อไปเพื่อเพิ่มทักษะความสามารถและผลสำเร็จในเวลาข้างหน้า.