ชาวลาวเชื้อสายเวียดในเซียงหวางนำอาหารเวียดนามสร้างชื่อเสียงให้แก่ชุมชน

Nguyễn Xuyến
Chia sẻ
(VOVWORLD) -    ท่านผู้ฟังค่ะ มีหลายคนบอกว่าถ้ามาถึงชุมชนแขวงคำม่วนในประเทศลาว แล้วยังไม่ได้ทานแบ๊งกายและเฝอเซียงหวาง ก็ถือว่ายังมาไม่ถึงคำม่วน ในสมัยก่อนแบ๊งกายและเส้นเฝอแห้งเซียงหวางถือเป็นอาหารชุดพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของแขวงคำม่วน ทางภาคกลางของสปป. ลาว โดยทุกคนต่างอยากลิ้มลองรสชาติหรือซื้อกลับไปเป็นของฝาก  แต่ที่พิเศษก็คืออาหารทั้งสองอย่างดังกล่าวนั้น เป็นการรังสรรค์จากฝีมือของชาวลาวเชื้อสายเวียดนาม
ชาวลาวเชื้อสายเวียดในเซียงหวางนำอาหารเวียดนามสร้างชื่อเสียงให้แก่ชุมชน - ảnh 1เส้นเฝอแห้งเซียงหวาง
 
 

        นาง เจิ่นถิเลือง อาศัยในหมู่บ้านเซียงหวาง มีประสบการณ์ในการทำเส้นเฝอแห้งมากกว่า 40 ปี ร่วมกับลูกน้อง 3 คน โดยเขาสามารถทำเส้นเฝอแห้งได้มากถึง 20 กิโลกรัมต่อวันและขายหมดทุกวัน ทั้งในแขวงคำม่วนและพื้นที่จังหวัดโดยรอบ ซึ่งสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่ครอบครัว

“ดิฉันประกอบอาชีพทำเส้นเฝอแห้งเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว ขายไปทั่ว ทั้งคนลาว คนเวียด หรือคนไทย ต่างก็นิยมชอบทานกัน”

        หมู่บ้านเซียงหวาง ตั้งอยู่ในอำเภอหนองบก แขวงคำม่วน ทางภาคกลางของประเทศลาว ริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งเต็มไปด้วยเอกลักษณ์วัฒนธรรมเวียดนาม ที่นี่มี 157 ครอบครัวกำลังอาศัย ซึ่งในนั้นมี 57 ครอบครัวที่เป็นชาวลาวเชื้อสายเวียดนามรุ่นที่ 2 และ 3 ทที่อพยพมาจากจังหวัดกว๋างบิ่งห์เมื่อกว่าหนึ่งศตวรรษที่แล้ว ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงอนุรักษ์วิถีชีวิตและประเพณีแบบดั้งเดิมของตน รวมถึงอาชีพพื้นเมือง เช่น อาชีพทำแบ๊งกาย เส้นเฝอแห้ง หมักเหล้า เป็นต้น โดยอาชีพการทำแบ๊งกายและเส้นเฝอเวียดนามแบบดั้งเดิมไม่เพียงแค่สร้างงานทำที่มั่นคงให้แก่ชาวลาวและชาวเวียดนาม แต่ยังกลายเป็นสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านเซียงหวาง

        นาย Chanthakhit Manipakorn ผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านเซียงหวาง เล่าว่า ตั้งแต่ปี 1995 ชาวเวียดนามในหมู่บ้านทุกคนมีสัญชาติลาวกันหมด สามารถปรับตัวเข้ากับการใช้ชีวิตและวัฒนธรรมพื้นเมืองได้เป็นอย่างดีและมีความสามัคคีกัน เขาเผยว่า หมู่บ้านเซียงหวาง ได้รับการรับรองเป็นหมู่บ้านที่มีการพัฒนาอย่างครอบคลุมและยังคงมีการพัฒนามากกว่าหมู่บ้านอื่นๆ ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีส่วนร่วมจากชาวลาวเชื้อสายเวียดนามเป็นอันมาก โดยชุมชนชาวลาวเชื้อสายเวียดนามของที่นี่พร้อมที่จะแบ่งปันสูตรทำอาหารแบบดั้งเดิมให้แก่คนลาวเพื่อร่วมกันพัฒนาสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น

        “ขนมแบ๊งกาย ถือเป็นของขวัญปีใหม่ช่วงตรุษเต๊ตสำหรับชาวเวียดนาม ภายหลังการปลดปล่อยประเทศ พวกเขาก็เริ่มผลิตในเชิงพานิชย์ จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงและเป็นเอกลักษณ์ของแขวงคำม่วน รวมถึงหมู่บ้านเซียงหวาง โดยอาชีพทำแบ๊งกาย เส้นเฝอแห้ง เหล้าขาว และขนมข้าวต้มมัดใหญ่ นั้นได้กลายเป็นอาชีพหลักของชุมชนชาวเวียดนามที่อาศัยอยู่ที่นี่ ส่วนในช่วง 3 – 4 ปีที่ผ่านมา พวกเราได้จัดตั้งกลุ่มผู้ผลิตขนมแบ๊งกาย โดยมีครอบครัวชาวลาวหลายครอบครัวเข้าร่วม ได้รับความช่วยเหลือทั้งในเรื่องวงเงินสนับสนุนและเทคนิคการทำจากครอบครัวชาวเวียดนาม”

ชาวลาวเชื้อสายเวียดในเซียงหวางนำอาหารเวียดนามสร้างชื่อเสียงให้แก่ชุมชน - ảnh 2 นาง เจิ่นถิเลือง อาศัยในหมู่บ้านเซียงหวาง มีประสบการณ์ในการทำเส้นเฝอแห้งมากกว่า 40 ปี 

สำหรับนาย Phaymani Phommasan รองปลัดสำนักงานคณะกรรมการแขวงคำม่วน รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากเมื่อกล่าวถึงการมีส่วนร่วมของชุมชนชาวลาวเชื้อสายเวียดนามในหมู่บ้านเซียงหวางต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของท้องถิ่น โดยในอำเภอหนองบก มีสินค้า ODOP เพียงแค่ 1 รายการเท่านั้นคือ ข้าวเม่า ในขณะที่ขนมแบ๊งกายและเส้นเฝอแห้งก็เป็นสินค้าเป้าหมายเพื่อพัฒนาให้เป็นสินค้า ODOP ของแขวงคำม่วนในอนาคต

        “ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทางการปกครองส่วนท้องถิ่นของแขวงคำม่วนได้ให้ความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาสินค้าต่างๆ ของชาวลาวเชื้อสายเวียดนาม โดยเฉพาะขนมแบ๊งกาย ซึ่งเป็นขนมที่สะท้อนเอกลักษณ์ของหมู่บ้านเซียงหวางและแขวงคำม่วน  โดยทางการจังหวัดมีความประสงค์ที่จะพัฒนาให้เป็นสินค้า ODOP  ควบคู่กับการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้ผู้มาเยือนมีโอกาสได้เยี่ยมชมเขตโบราณสถานประธานโฮจิมินห์ รวมถึงกระบวนการผลิตขนมแบ๊งกายและเส้นเฝอแห้ง พร้อมสามารถซื้อกลับไปเป็นของฝาก”

        ทั้งนี้ หมู่บ้านเซียงหวางไม่เพียงแค่ได้รับการรู้จักว่าเป็นดินแดนทางประวัติศาสตร์อันศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่ที่ประธานโฮจิมินห์เคยอยู่อาศัยในช่วงทำการปฏิวัติเมื่อเกือบ 100 ปีก่อนเท่านั้น แต่ยังมีจุดเด่นทางวัฒนธรรมอาหารของชาวเวียดนามที่สะท้อนผ่าน ขนมแบ๊งกายและเส้นเฝอแห้ง ที่ผ่านกระบวนการทำอย่างพิถีพิถันด้วยวัตถุดิบที่มีคุณภาพดีของท้องถิ่น ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้เกิดแบรนด์สินค้าที่เป็นที่รู้จักไปทั่วทุกหนแห่ง เป็นผลิตภัณฑ์ที่เต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ดีและการร่วมแรงร่วมใจของประชาชนทั้งสองประเทศ./.

Komentar