ฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ ร่วมกันค้นคว้าวัฒนธรรมอาเซียน

Nguyễn Yến VOV5
Chia sẻ
(VOVworld)–หนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากเด็กๆและชาวฮานอยจำนวนมากในโอกาสเทศกาลไหว้พระจันทร์ปี๒๐๑๓คือรายการ“ฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ ร่วมกันค้นคว้าวัฒนธรรมอาเซียน”โดยมีการเดินแฟชั่นโชว์ชุดชนเผ่า การแนะนำการละเล่นพื้นบ้านและอาหารของประเทศต่างๆในภูมิภาค


(VOVworld) – หนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากเด็กๆและชาวฮานอยจำนวนมากในโอกาสเทศกาลไหว้พระจันทร์ปี๒๐๑๓คือรายการ“ฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ ร่วมกันค้นคว้าวัฒนธรรมอาเซียน”โดยมีการเดินแฟชั่นโชว์ชุดชนเผ่า การแนะนำการละเล่นพื้นบ้านและอาหารของประเทศต่างๆในภูมิภาคโดยพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยาเวียดนาม สถานทูตประเทศอาเซียนประจำเวียดนามและสหพันธ์องค์การมิตรภาพสาขากรุงฮานอยจัดขึ้น

ฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ ร่วมกันค้นคว้าวัฒนธรรมอาเซียน - ảnh 1
การสร้างภาพมรดกวัฒนธรรมอาเซียนด้วยเมล็ดธัญพืช(Photo:VOV )

รายการ“ฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ ร่วมกันค้นคว้าวัฒนธรรมอาเซียน”เริ่มต้นด้วยการเดินแฟชั่นโชว์ชุดชนเผ่าของชายหญิงเวียดนาม ลาว กัมพูชา ฟิลิปปีนส์ บรูไน พม่าไทย มาเลเซีย อินโดนีเซียและติมอร์เลสเตซึ่งนางแบบและนายแบบคือเด็กเวียดนามและนักศึกษาประเทศสมาชิกอาเซียนที่กำลังศึกษาในเวียดนาม เครื่องแต่งกายแต่ละชุดไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงเทคนิกในการตัดเย็บเท่านั้นหากยังแฝงไว้ซึ่งคุณค่าทางวัฒนธรรมที่สั่งสมมานานปีอีกด้วย  เครื่องแต่งกายของชนเผ่าต่างๆในเวียดนามประกอบด้วยเครื่องแต่งกายของชนชาติกิง ม้ง ไทดำและเย้วแดงพร้อมกำไลมือ สร้อยคอ เป็นต้น โดยเฉพาะมงกุฎมีรูปบ้านยกพื้นเป็นไฮไลท์ของเครื่องแต่งกายพื้นเมืองของติมอร์เลสเต ส่วนเครื่องแต่งกายของชาวชวาในอินโดนีเซียมีลวดลายปราณีตสวยงามโดยใช้เทคนิการถักและพิมพ์ขี้ผึ้ง  เครื่องแต่งกายสำหรับผู้หญิงของชนเผ่าลาวคือ ผ้าซิ่น สไบ มวยผมสูง ส่วนผู้ชายพันผ้าพากาเตียว คุณพาลามี สีสะหวาดนักศึกษาชาวลาวที่กำลังศึกษาในสถาบันการทูตเวียดนามที่เข้าร่วมรายการเผยว่า

นอกจากการเดินแฟชั่นโชว์แล้วยังมีการแนะนำการละเล่นพื้นบ้านของประเทศสมาชิกอาเซียนซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เช่น ชักเย่อไม่เพียงแต่เป็นการละเล่นของชาวเวียดนามเท่านั้นหากยังเป็นการละเล่นของชาวไทยด้วย แต่ความแตกต่างอยู่ที่ ชักเย่อแบบเวียดนามใช้เชือกเส้นเดียวโดยแบ่งผู้เล่นออกเป็น๒ฝ่าย แต่ละฝ่ายจะมีจำนวนเท่าๆกันหรือกำลังพอๆกัน  ยาวพอที่จะให้ผู้เล่นทั้ง๒ฝ่ายเรียงแถวจับได้โดยมีที่ว่างระหว่างกลางเหลือไว้ประมาณ๒เมตร ส่วนกลางเชือกคาดด้วยผ้าหรือใช้สีทาไว้เพื่อเป็นเครื่องหมายกึ่งกลางเชือกไว้ บนพื้นที่ที่มีเส้นขีดกลางเป็นเส้นแบ่งเขตแดน เมื่อกรรมการให้สัญญาณ ผู้เล่นทั้ง๒ฝ่ายจะพยายามดึงเชือกให้กึ่งกลางของเชือกเข้ามาในแดนของตน ถ้าฝ่ายใดสามารถดึงเข้ามาในแดนของตนได้ก็ถือว่าชนะ  ส่วนชักเย่อของไทยจะมีวงกลมซึ่งอาจใช้ยางนอกโดยใช้เชือกผูกเอวผู้เล่น๓คนที่หันหลังให้กันและยืนในวงและแบ่งระยะห่างให้เท่ากัน ต่อจากนั้นผู้เล่นออกแรงดึง ถ้าใครถูกดึงออกจากวงก็ถือว่าแพ้ “การละเล่นแบบนี้สนุกมาก ผู้เล่นต้องมีสุขภาพแข็งแรง การเข้าร่วมรายการนี้ทำให้ ผมเข้าใจการละเล่นพื้นบ้านของไทย”

ฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ ร่วมกันค้นคว้าวัฒนธรรมอาเซียน - ảnh 2
การระบายสี(Photo:VOV)

ส่วนการเดินกะลาก็ได้รับความสนใจจากทั้งเด็กๆและผู้ปกครองโดยกะลามะพร้าวจะถูกแบ่งครึ่งแล้วร้อยเอาไว้ ผู้เล่นจะยืนบนกะลา ใช้มือดึงเชือกให้ตรงแล้วเดิน คนที่เดินเร็วที่สุดก็เป็นผู้ชนะ เสียงดังกลอพๆของกะลามะพร้าวที่กระทบพื้นช่วยสร้างบรรยากาศที่สนุกๆ “หนูชอบการละเล่นนี้ที่ต้องเดินให้เร็วที่สุดเพื่อเป็นผู้ชนะ”  ที่อีกมุมหนึ่งก็มีการละเล่นที่เน้นการใช้สมอง เช่น การประกวดความรู้เกี่ยวกับธงชาติ สกุลเงิน มรดกวัฒนธรรมของประเทศอาเซียนผ่านแผนที่ที่ไม่ระบุชื่อ การระบายสีธงชาติประเทศต่างๆ และการสร้างภาพมรดกวัฒนธรรมอาเซียนด้วยเมล็ดธัญพืช การละเล่นการมัดและแก้เชือกของบรูไนที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก คุณยิวฮึงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครได้แนะนำการละเล่นพื้นบ้านต่างๆว่า“การละเล่นมัดเชือกมีสองรูปแบบ ส่วนการสอดลูกปัดไม้นั้นไม่ยากแต่แสดงให้เห็นถึงฝีมือของผู้เล่น โน้นคือการละเล่นการสอดเชือกเข้า๒ส่วนของสาแหรก การละเล่นนี้ยังเรียกว่า การละเล่นสาแหรก”

ฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ ร่วมกันค้นคว้าวัฒนธรรมอาเซียน - ảnh 3
อาหารมาเลเซียได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว(Photo:VOV )

ส่วนมุมอาหารอาเซียนก็มีกุ๊กจากประเทศอาเซียนมาแนะนำและขายอาหารประจำชาติพร้อมกับผลไม้สดของบางประเทศในภูมิภาคแม้ว่าจะดำเนินไปเป็นเวลา๒วัน แต่รายการนี้ได้สร้างความประทับใจให้แก่ผู้เข้าร่วมโดยไม่เพียงแต่ได้ฟัง ได้ดูและเข้าร่วมโดยตรงเพื่อค้นพบความแปลกใหม่ทางวัฒนธรรมที่หลากหลายสีสันของอาเซียนเท่านั้นหากยังมีส่วนร่วมขยายความเข้าใจระหว่างประชาชนประเทศอาเซียนเพื่อขานรับการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนภายในปี๒๐๑๕ อีกด้วย./.

 

 

Komentar