เสียงท่อที่กระหึ่มของรถบิ๊กไบค์หลายคันที่จอดไว้ด้านหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งในย่านถนนโบราณฮานอยของคณะ “Wonderful Indonesia Motorbike Touring” ได้ดึงดูดความสนใจของกลุ่มชาวบ้านในละแวกนั้นซึ่งคณะใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง ในการเดินทางจากด่าน เกิ่วแจว ของจังหวัดห่าติ๋งห์ มาถึงกรุงฮานอย
“สุดท้าย พวกเราก็เดินทางมาถึงและรู้สึกดีใจมาก หลังเสร็จสิ้นการเดินทาง 4,500 กิโลเมตรได้อย่างปลอดภัย ซึ่งตอนนี้ก็สามารถพักผ่อนได้แล้ว”
นักขับบิ๊กไบค์ชาวอินโดนีเซียและกัมพูชาเข้าร่วมกิจกรรม
“Wonderful Indonesia Motorbike Touring 2022” |
กิจกรรม “Wonderful Indonesia Motorbike Touring” ได้มีขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2019 จากข้อเสนอของนาย Pratito Soeharyo เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศลาว ด้วยความหวังที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการฑูตผ่านการใช้รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ โดยมีการเชิญชวนให้นักขับบิ๊กไบค์จัดทริปเดินทางผ่านกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อเสริมสร้างความสามัคคีระหว่างอินโดนีเซียกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค ซึ่งครั้งนี้ได้มีการขยายพื้นที่เดินทางถึง 5 ประเทศจาก 3 ประเทศในครั้งแรก
หลังต้องเลื่อนการจัดกิจกรรมเป็นเวลากว่า 2 ปี เนื่องจากวิกฤตโควิด-19 “Wonderful Indonesia Motorbike Touring” ครั้งที่ 2 นี้ ถือเป็นยาวิเศษที่ส่งกำลังใจให้ชาวอินโดนีเซียก้าวเข้าสู่ยุคชีวิตวิถีใหม่ โดยการเดินทางเริ่มต้นจากอินโดนีเซียผ่านมาเลเซีย ไทย ลาว กัมพูชา และมาสิ้นสุดที่เวียดนาม ซึ่งพวกเขาได้ฟันฝ่าความท้าทายเพื่อคว้าโอกาสที่จะได้สัมผัสความงามของธรรมชาติ รวมถึงการได้พบปะผู้คนในประเทศต่างๆ นาย Sahzahan นักธุกิจวัย 50 ปี กล่าวถึงประสบการณ์ที่ได้ร่วมพิชิตเส้นทางทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับ “Wonderful Indonesia Motorbike Touring” เป็นครั้งที่ 2 ด้วยความภาคภูมิใจและปลื้มปิติ ว่า
“แต่ละเส้นทางและจุดหมายปลายทางได้สร้างความประทับใจที่โดดเด่นแตกต่างกันไป จากมาเลเซียไปยังไทย พวกเราสามารถวิ่งบนทางด่วนได้ ในขณะที่ในอินโดนีเซีย สามารถวิ่งได้เฉพาะบนทางหลวงเท่านั้น ส่วนในกัมพูชา มีถนนใหญ่หลายเส้นและไม่ค่อยมีทางด่วน สำหรับเส้นทางจากกัมพูชาไปยังลาว รวมถึงบริเวณด่าน เกิ่วแจว ของเวียดนาม ถือว่าเป็นเส้นทางที่ยากที่สุดและเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจในชีวิตจริงๆ”
คณะ “Wonderful Indonesia Motorbike Touring” กับสมาชิกชมรมบิ๊กไบค์ฮานอย ณ ด่าน เกิ่วแจว ในจังหวัดห่าติ๋งห์ (ภาพจากสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศเวียดนาม) |
นอกจากนี้ กลุ่มสมาชิก “Wonderful Indonesia Motorbike Touring” ยังประสบอุปสรรคที่ต้องก้าวข้ามอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ มากมาย เช่น ความกังวลเมื่อเจอปัญหารถเสียบ่อยครั้ง ความรู้สึกเหนื่อยหมดแรงใต้แสงแดดที่ร้อนระอุด้วยอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียสในกัมพูชาและที่เวียดนาม หรือความรู้สึกกังวลเมื่อต้องวิ่งบนเส้นทางที่คดเคี้ยวหลายเส้นทาง รวมถึงอุบัติเหตุชนวัวที่วิ่งตัดหน้า ด้วยการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศสมาชิกอาเซียน หน่วยงานภาครัฐต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความร่วมมือและการให้ความช่วยเหลือจากชมรมบิ๊กไบค์ในหลายประเทศสมาชิกอาเซียน พร้อมความสวยงามของธรรมชาตินั้น ก็ได้สร้างความประทับใจให้กับกลุ่มผู้ขับชาวอินโดนีเซียตลอดเส้นทาง
“พวกเราได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียและชมรมผู้ขับรถบิ๊กไบค์ในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าดินฟ้าอากาศหรือการเดินทางจะเป็นยังไงก็ตาม รวมถึงในช่วงที่พวกเราเจอปัญหารถเสีย”
“พวกเราได้เดินทางผ่านกัมพูชาและเยี่ยมชมนครวัด ซึ่งอากาศที่นี้ร้อนมากๆ โดยอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศา ส่วนประเทศเวียดนามได้สร้างความประทับใจให้พวกเราด้วยภูเขาสูงตระหง่าน พร้อมทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามและเงียบสงบ พวกเราก็ได้ถ่ายรูปเช็คอินที่นั้นด้วย”
นำเสนอสินค้าต่างๆ ของกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมในอินโดนีเซีย |
ทั้งนี้ นอกเหนือจากเป้าหมายพิชิตเส้นทางต่างๆ แล้ว วัตถุประสงค์สูงสุดของ “Wonderful Indonesia Motorbike Touring 2022” คือเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว รวมถึงการนำเสนอสินค้าต่างๆ ของกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมในอินโดนีเซีย เช่น หมวกกันน็อคคุณภาพดี น้ำมันหล่อลื่น เสื้อผ้า รองเท้า รวมถึงอะไหล่จักรยานยนต์ที่ช่วยลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการขับขี่ อีกทั้งพวกเขายังได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่น่าสนใจของอินโดนีเซียพร้อมแจกโบรชัวร์ให้กับแขกรับเชิญทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรม และแบ่งปันประสบการณ์ระหว่างการเดินทางด้วย
“ผมกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า สิ่งใดที่พวกเราได้ทำด้วยใจจริงและความคลั่งไคล้ก็ล้วนแต่ประสบความสำเร็จเพราะเราทำด้วยหัวใจที่เต็มร้อย” นี่คือคำยืนยันของเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศเวียดนาม Denny Abdi ในการกล่าวปราศรัยต้อนรับกลุ่มนักขับบิ๊กไบค์ชาวอินโดนีเซียหลังจากที่พวกเขาได้สิ้นสุดการเดินทางด้วยหัวใจอันแรงกล้า.