(VOVworld) – ปัจจุบัน การพัฒนาหมู่บ้านศิลปาชีพไม่เพียงแต่ช่วยสร้างงานทำและเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นเท่านั้นหากยังมีส่วนร่วมผลักดันการบรรลุมาตรฐานการสร้างสรรค์ชนบทใหม่อีกด้วย
ผลิตภัณฑ์ของหมุ่บ้านลงรักฝังมุกเชวียนหมี่
|
อำเภอฟู้เซวียนถือเป็นท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อด้วยอาชีพพื้นเมืองเนื่องจากเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านศิลปาชีพ 125 แห่งจากทั้งหมดกว่า 1000 แห่งในกรุงฮานอย ซึ่งทางอำเภอได้นำจุดแข็งนี้ใช้ในการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ โดยเฉพาะในขณะที่จำนวนหมู่บ้านศิลปาชีพดังกล่าวมีแนวโน้มลดลงเนื่องจากได้รับผลกระทบในทางลบจากการพัฒนาของระบบเศรษฐกิจเชิงตลาด นายเจืองเท้เกิ่ว เลขาธิการพรรคสาขาอำเภอฟูเซวียนแสดงความคิดเห็นว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับยุทธศาสตร์การสร้างสรรค์ชนบทใหม่พร้อมกับการพัฒนาหมู่บ้านศิลปาชีพคือ ต้องเข้าใจถึงข้อดีของโครงการสร้างสรรค์ชนบทใหม่อย่างสมบูรณ์ “ในมาตรฐานสร้างสรรค์ชนบทใหม่ทั้ง 19 มาตรฐาน มีมาตรฐานเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างการเกษตรโดยสร้างงานทำใหม่ๆให้แก่เกษตรกรและเพื่อทำให้ได้เช่นนั้นต้องพัฒนาหมู่บ้านศิลปาชีพและเปลี่ยนความคิดของประชาชนเพื่อให้ทุกคนในท้องถิ่นมีงานทำ มีรายได้จากการเกษตรและศิลปาชีพซึ่งจะช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านให้ดียิ่งขึ้น”
มาตรฐานที่สำคัญในโครงการสร้างสรรค์ชนบทใหม่คือต้องทำอย่างไรเพื่อให้ประชาชนร้อยละ 90 มีงานทำ ดังนั้น ทางอำเภอได้ปฏิบัติยุทธศาสตร์การสร้างสรรค์ชนบทใหม่พร้อมๆกับพัฒนาอาชีพพื้นเมืองและการท่องเที่ยวหมู่บ้านศิลปาชีพเพื่อให้แรงงานทุกคนมีงานทำ โดยอำนวยความสะดวกในด้านที่ดินและการเคลียร์พื้นที่เพื่อสนับสนุนการผลิตสินค้าหัตถกรรม โดยเฉพาะในหมู่บ้านที่เป็นจุดแข็งของอำเภอ เช่น หมู่บ้านจักสานฟู้ตุ๊ก หมู่บ้านลงรักฝังมุกเชวียนหมี่ หมู่บ้านตัดเย็บเสื้อผ้าเวินตื่อ หมู่บ้านผลิตรองเท้าฟู้เอียน หมู่บ้านผ้าปักและฉลุด๋ายด่งและหมู่บ้านทำเครื่องเฟอร์นิเจอร์เตินเญิน เป็นต้น หลังการปฏิบัติยุทธศาสตร์การพัฒนาหมู่บ้านศิลปาชีพพร้อมกับการสร้างสรรค์ชนบทใหม่มากว่า 2 ปี สถานการณ์เศรษฐกิจและสังคมของอำเภอฟู้เซวียนได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นที่น่ายินดี ซึ่งในขณะนี้ ประชาชนร้อยละ 90 มีรายได้จากงานฝีมือ โดยเฉพาะในหมู่บ้านจักสานฟู้ตุ๊ก ชาวบ้านแทบทุกคนมีงานทำ ซึ่งในนั้นมีหลายรายได้กลายเป็นคนมีฐานะดี ส่วนหมู่บ้านผลิตรองเท้าหนังฟู้เซวียนสามารถผลิตสินค้ามีคุณภาพสูงส่งออกไปยังต่างประเทศ จากผลสำเร็จดังกล่าว ทางอำเภอฟู้เซวียนตั้งเป้าไว้ว่าจะรักษาและขยายขอบเขตหมู่บ้านศิลปาชีพให้กว้างขวางยิ่งขึ้นเพื่อเป็นพื้นฐานให้แก่การสร้างสรรค์ชนบทใหม่ นายเจืองเท้เกิ่วเผยต่อไปว่า “ หมู่บ้านศิลปาชีพได้มีส่วนร่วมช่วยให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น แก้ไขปัญหาแรงงาน งานทำในพื้นที่และรักษาเสถียรภาพในเขตชนบท ดังนั้นคณะกรรมการประชาชนอำเภอได้กำหนดวันที่ 26 ตุลาคมเป็นวันเชิดชูหมู่บ้านศิลปาชีพในอำเภอฟู้เซวียน”
อาชีพจักสานสร้างรายได้มั่นคงให้แก่ชาวบ้าน
|
จากการตระหนักได้ดีว่า การพัฒนาหมู่บ้านศิลปาชีพนอกจากจะมีคุณค่าทางเศรษฐกิจแล้วก็ยังมีส่วนช่วยเพิ่มคุณค่าทางวัฒนธรรมในเขตชนบทอีกด้วย ดังนั้นหมู่บ้านศิลปาชีพหลายแห่งในอำเภอฟู้เซวียนจึงให้ความสนใจในการสร้างงานทำที่มั่นคงและเพิ่มรายได้ รวมทั้งรักษาวัฒนธรรมและพัฒนาหมู่บ้านให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว พร้อมกับการยกย่องหมู่บ้านและช่างฝีมือในทุกๆปี ทางอำเภอยังสนใจแนะนำผลิตภัณฑ์ให้กับนักท่องเที่ยวผ่านการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวหมู่บ้านศิลปาชีพต่างๆ เช่น ไปเที่ยวหมู่บ้านทำตุ๊กตาต่อแฮซวนลา หมู่บ้านตัดเย็บเสื้อผ้าเวินตื่อและหมู่บ้านผ้าปักและฉลุด๋ายด่ง เป็นต้น นายเหงียนกงคา เจ้าของโรงตัดเย็บเสื้อผ้าแห่งหนึ่งในหมู่บ้านเวินตื่อเผยว่า “การสดุดีหมู่บ้านศิลปาชีพคือโอกาสดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวอำเภอฟูเซวียนมากขึ้นต่อจากนั้นจะสามารถขยายผลไปยังท้องถิ่นอื่นๆในกรุงฮานอยและในทั่วประเทศ ซึ่งช่วยให้นักท่องเที่ยวรู้จักหมู่บ้านศิลปาชีพต่างๆของเวียดนาม”
เป้าหมายหนึ่งของโครงการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ที่กำลังปฏิบัติในเวียดนามปัจจุบันคือ สร้างสรรค์ชนบทใหม่ให้มีโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคมทันสมัย มีสัดส่วนและรูปแบบการผลิตที่เหมาะสม ตลอดจนพัฒนาการเกษตรพร้อมกับให้บริการ ซึ่งการฟื้นฟูและพัฒนาหมู่บ้านศิลปาชีพในอำเภอฟู้เซวียนจึงเป็นรูปแบบที่ดีให้แก่การสร้างสรรค์ชนบทใหม่อย่างยั่งยืนในเวียดนาม./.
Tô Tuấn – VOV5