จังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่าพยายามยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของชนกลุ่มน้อยให้ดีขึ้น

Lưu Sơn - Vĩnh Phong
Chia sẻ
(VOVWORLD) -บ่าเหรียะ – หวุงเต่า มีประชากรเกือบ 9,000 ครอบครัว ซึ่งในนั้นมีประชากร 25,700 คนที่เป็นชนกลุ่มน้อย 38 ชาติพันธุ์ เช่น ฮัว เขมร ไต่ หนุ่งและโจวรอ เป็นต้น คิดเป็นร้อยละ 2.3 ของประชากรทั้งจังหวัด จากการดูแลเอาใจใส่ของทางการท้องถิ่น ชนกลุ่มน้อยที่นี่นับวันสามารถสร้างฐานะให้มั่นคงและมีความสามัคคีในการสร้างสรรค์ภูมิลำเนาให้สวยงาม
จังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่าพยายามยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของชนกลุ่มน้อยให้ดีขึ้น - ảnh 1บ่าเหรียะ – หวุงเต่า มีประชากร 25,700 คนที่เป็นชนกลุ่มน้อย 38 ชาติพันธุ์

“รัฐให้การดูแลเอาใจใส่ชนกลุ่มน้อยอย่างพวกเราเป็นอย่างมาก โดยมอบที่อยู่อาศัย วัว แพะและสร้างถนนให้ เราก็พยายามสร้างฐานะ เลี้ยงวัวเลี้ยงแพะ ขยันหมั่นเพียรเพื่อพัฒนาฐานะ”

“สามีฉันทำงานในโรงงาน ซึ่งเมื่อก่อนนี้ ครอบครัวฉันยากจนมาก หลังคาบ้านรั่วหลายจุด แต่เราได้รับเงินจากรัฐ แล้วพี่น้องเพื่อนๆ ก็ให้กู้เงินเพื่อสามารถสร้างบ้านหลังใหม่ ปัจจุบันนี้คุณภาพชีวิตดีขึ้น”

นี่คือความคิดเห็นของชนกลุ่มน้อยสองคนในอำเภอเซวียนหมกและโจวดึ๊ก จังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่า ซึ่งการดูแลเอาใจใส่และช่วยเหลือจากทางการท้องถิ่นและความพยายามของชนกลุ่มน้อยได้ช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชนกลุ่มน้อยนับวันดีขึ้น

ในอำเภอโจวดึ๊ก มีครอบครัวกว่า 2,220 ครอบครัว รวมประชากรชนกลุ่มน้อยเกือบ 9,500 คนใน 13 ชนเผ่า เช่น โจวรอ ฮัว หนุ่ง เขมร ไต่ ไท จามและม้ง ในอดีต รายได้ของประชากรมาจากการทำเกษตรและเลี้ยงปศุสัตว์แบบรายย่อยเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งบางครอบครัวไม่มีหรือขาดแคลนที่ดินทำการเกษตร จึงยากจนมาก แต่หลังจากมีการปฏิบัติมติของจังหวัดฯ เกี่ยวกับโครงการเป้าหมายแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมสำหรับชนกลุ่มน้อยในระยะที่ 2 ช่วงปี 2022-2025 ปัจจุบัน ครอบครัวชนกลุ่มน้อยเกือบทุกครอบครัวได้มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง มีไฟฟ้าใช้ ได้รับการสนับสนุนด้านพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ เป็นต้น นาย เหงียนเติ๊นบ๋าน ประธานคณะกรรมการประชาชนอำเภอโจวดึ๊ก กล่าวว่า นโยบายสนับสนุนชนกลุ่มน้อยได้ถูกนำมาสอดแทรกในเนื้อหาของการสร้างสรรค์ชนบทใหม่และตัวเมืองอัจฉริยะ จึงมีประสิทธิผลมาก จนทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชนกลุ่มน้อยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด

“ทางการท้องถิ่นเกาะติดสถานการณ์เพื่อให้การช่วยเหลือชนกลุ่มน้อยต่อไป โดยมอบหมายหน้าที่ให้แต่ละหน่วยงาน ผู้ใหญ่บ้านและผู้ที่ได้รับการนับถือในหมู่บ้านเพื่อช่วยให้ชนกลุ่มน้อยตระหนักได้ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้และปฏิบัติตาม”

ในแต่ละปี จังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่าได้สงวนเงินกว่า 2 แสนล้านด่งหรือกว่า 8.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อก่อสร้างโครงการสาธารณะให้แก่เขตชนกลุ่มน้อย เช่น ถนน ระบบไฟฟ้าและชลประทาน เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังจัดงบเกือบ 2 หมื่น 5 พันล้านด่งหรือกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีเพื่อปฏิบัตินโยบายสนับสนุนชนกลุ่มน้อยที่ยากจนในการก่อสร้างและซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและพัฒนาการเกษตร  ซึ่งถึงขณะนี้ หมู่บ้านชนกลุ่มน้อยทุกแห่งต่างบรรลุมาตรฐานชนบทใหม่ ครอบครัวชนกลุ่มน้อยเกือบทุกครอบครัวมีไฟฟ้า น้ำประปาและที่อยู่อาศัยที่มั่นคง นาย ต่องวันเชี้ยน ในอำเภอเซวียนหมก กล่าวว่า

“เมื่อก่อนนี้ ที่นี่ไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปา ถนนหนทางก็ไม่มีหรือที่มีแล้วก็แคบมาก แต่เดี๋ยวนี้ ภาครัฐได้ช่วยเหลือในด้านระบบสาธารณูปโภค ช่วยให้การเดินทางสะดวก ซึ่งเรามีความยินดีเป็นอย่างมาก”

ในต้นปี 2016 ในจังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่ามีชนกลุ่มน้อยที่ยากจนกว่า 1,460 ครอบครัว แต่ในปัจจุบันได้ลดลงเหลือแค่ 193 ครอบครัว ทางการจังหวัดฯ ได้ตั้งเป้าหมายลดอัตราผู้ยากจนให้เหลือน้อยที่สุดโดยเร็ว โดยแต่ละปีพยายามลดลงให้ได้ร้อยละ 4-5 เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ทางการจังหวัดฯ ได้วางแผนการใช้งบประมาณอีกกว่า 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อปฏิบัติมาตรการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในเขตชนกลุ่มน้อย โดยเน้นในด้านสาธารณสุข ชลประทาน วัฒนธรรม การศึกษา การคมนาคมและที่อยู่อาศัย นาย โด๋ดิ่งก๊วก หัวหน้าคณะกรรมการชาติพันธุ์จังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่า เผยว่า

“จังหวัดได้ปฏิบัตินโยบายต่างๆ สำหรับชนกลุ่มน้อย โดยจนถึงปลายปี 2022 ไม่มีครอบครัวที่ยากจนตามมาตรฐานแห่งชาติสำหรับชนกลุ่มน้อยอีก ชีวิตความเป็นอยู่ของชนกลุ่มน้อยได้รับการยกระดับให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ก็สามารถตอบสนองความต้องการในการผลิตและการใช้ชีวิต”

โครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมให้แก่ชนกลุ่มน้อยในจังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่าระยะปี 2022-2025 ตั้งเป้าไว้ว่า ภายในปี 2025 รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรในจังหวัดเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2020 และถึงปี 2025 จะลดอัตราครอบครัวที่ยากจนตามมาตรฐานความยากจนใหม่ร้อยละ 3-5 ให้เหลือต่ำกว่าร้อยละ 2.

Komentar