(VOVworld) – หมู่บ้านไถ่กี๊ ตัวเมือง แถ่งอาน อำเภอ หวิงแถ่ง นครเกิ่นเทอเป็นท้องถิ่นที่ประชาชนทุกคนนับถือศาสนาคริสต์และทางนครเกิ่นเทอเลือกให้เป็นท้องถิ่นปฏิบัติรูปแบบสร้างสรรค์ชนบทใหม่เป็นการนำร่อง ในตลอด 10 ปีมานี้ หมู่บ้านไถ่กี๊ยังคงได้รับการประกาศเป็นเป็นหมู่บ้านวัฒนธรรมดีเด่นและยกระดับคุณภาพมาตรฐานเกี่ยวกับเขตชุมชนสามัคคีในการสร้างสรรค์ชีวิตวัฒนธรรมที่โปร่งใสและบริสุทธิ์มากขึ้นตามแนวทาง “ใช้ชีวิตที่ดีทั้งทางโลกและทางธรรม”
ทุ่งนาขนาดใหญ่ในหมู่บ้านไถ่กี๊
|
เมื่อกว่าสิบปีก่อน ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในไถ่กี๊ประสบอุปสรรคมากมายโดยชาวท้องถิ่น ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ถนนในท้องถิ่นมีสภาพขรุขระ ส่วนทำนบก็ทำเป็นคันดินแบบง่ายๆซึ่งทำให้การสัญจรไปมามีความลำบากมาก ในหมู่บ้านไถ่กี๊มีสะพานคอนกรีต 1 แห่งเท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นสะพานไม้ไผ่เกือบ 10 แห่งที่เชื่อมชาวท้องถิ่นในสองฝั่งคลองไถ่กี๊ พื้นที่ปลูกข้าวมีไม่มากนักและขาดการบริหารจัดการที่ดีจึงทำให้ได้ผลผลิตแค่ 6 ตันต่อเฮกต้าในฤดูข้าวนาปีเท่านั้น จากสภาพชีวิตที่ลำบากเมื่อก่อน ชาวท้องถิ่นยังคงจดจำกิจกรรมสำคัญต่างๆที่ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่ในเขตชุมชนให้มีคุณภาพ เช่น เมื่อปี 2004 ทางการได้รณรงค์ให้ประชาชนขุดลอกคูคลองใหม่เพื่อใช้เป็นเส้งทางผันน้ำเข้านา รวมพื้นที่ 400 เฮกต้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การผลิต การทำการเกษตรและชลประทาน เพิ่มฤดูเก็บเกี่ยวและผลผลิต ในช่วงปี2005-2006 ทางการปกครองและประชาชนได้ร่วมกันก่อสร้างสะพานคอนกรีต 5 แห่งเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางไปโรงเรียนของลูกหลาน เมื่อปี 2008 ได้ขุดลอกคูคลองและเสริมความแข็งแรงให้ทำนบคันน้ำ ปี 2009 ก่อสร้างถนนชนบท ปลูกต้นไม้ตลอดริมคลอง ส่วนพื้นที่ปลูกข้าวเกือบ 580 เฮตต้าก็ให้ผลผลิตสูงกว่าเมื่อก่อนคืออยู่ที่ 7.5 ตันต่อเฮกต้าในฤดูข้าวนาปี ต่อจากนั้น ก็พัฒนาทุ่งนาขนาดใหญ่รวมพื้นที่ 400 เฮกต้าโดยพัฒนาการเกษตรตามแนวทางที่ทันสมัย ใช้พันธุ์ข้าวใหม่ มีการเชื่อมโยงกับผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ นาย หว่างวันเยิน หัวหน้าคณะกรรมการประชาชนหมู่บ้านไถ่กี๊ได้เผยว่า ในหลายปีที่ผ่านมา ประชาชนในหมู่บ้านไถ่กี๊ต่างได้รับประโยชน์จากแนวทางรณรงค์ประชาชนพัฒนาทุ่งนาขนาดใหญ่“เมื่อพัฒนาทุ่งนาขนาดใหญ่ต้องปฏิบัติตามกระบวนการผลิตใหม่และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ โดยเฉพาะการใช้ปุ๋ยอย่างเหมาะสมและใช้เครื่องจักรกล หลังจากพัฒนาทุ่งนาขนาดใหญ่ในหลายปีที่ผ่านมา ผลผลิตมีความยั่งยืนยิ่งขึ้น กำไรเพิ่มขึ้นและประชาชนเข้าร่วมการพัฒนาทุ่งนาขนาดใหญ่อย่างเข้มแข็ง ปัจจุบัน การผลิตเกษตรในพื้นที่ปลูกข้าว 400 เฮกต้าได้มีความเชื่อมโยงกับสถานประกอบการทั้งฝ่ายลงทุน อุปกรณ์และฝ่ายจำหน่ายผลิตภัณฑ์อย่างแน่นแฟ้น”
จากการได้รับแนวทางการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในหมู่บ้านไถ่กี๊มีความคึกคักยิ่งขึ้น งานด้านการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ประชาชนให้ใช้ชีวิตที่ดีและให้การศึกษาแก่ลูกหลานเพื่อกลายเป็นพลเมืองที่ดีได้รับการสนับสนุนและปฏิบัติตามอย่างเข้มแข็งจากชาวท้องถิ่นทุกคน หมู่บ้านไถ่กี๊กลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายเนื่องจากครอบครัวกว่าร้อยละ 80 มีลูกหลานที่กำลังเรียนอยู่ในระดับอุดมศึกษาและโรงเรียนอาชีวะต่างๆ อัตรานักศึกษาที่จบมหาวิทยาลัยคิดเป็นร้อยละ 10 ของยอดประชากรในหมู่บ้านซึ่งสูงที่สุดในนครเกิ่นเทอและสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของประเทศ ชาวท้องถิ่นที่นี่ได้ให้การศึกษาแก่ลูกหลานภายใต้คำขวัญ “การส่งเสริมการศึกษาคือวิธีการหลุดพ้นจากความยากจนที่ยั่งยืน” ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในหมู่บ้านไถ่กี๊จะดีขึ้นอย่างยั่งยืนก็ด้วยการอาศัยคนรุ่นใหม่ที่มีทักษะความรู้ ความสามารถ มีงานทำและมีรายได้อย่างยั่งยืนเป็นหลักซึ่งจะมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาของปิตุภูมิ รวมทั้งหมู่บ้านไถ่กี๊ นาย เหงียนวันโก่ว หัวหน้าสภาบริหารคริสตจักร แท้งยา หมู่บ้านไถ่กี๊ได้เผยว่า“ทางการท้องถิ่น รวมทั้งสำนักงานทางศาสนาได้ให้การช่วยเหลือและให้กำลังใจลูกหลานไปโรงเรียนอยู่เสมอเพราะมีแต่การศึกษาเท่านั้นที่เป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดเพื่อแก้ปัญหาความยากจนและยกระดับจิตสำนึกของประชาชน พวเราก็มีกฎระเบียบของหมู่บ้านซึ่งได้รับความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์จากประชาชนทุกชั้นชนเพื่อมุ่งสู่การสร้างสรรค์ชุมชนที่มีวัฒนธรรมและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น”
เราสามารถขับรถจักรยานยนต์โดยใช้ถนนคอนกรีต เพื่อไปยังเขตชุมชนต่างๆ
|
ชีวิตความเป็นอยู่และจิตสำนึกของประชาชนได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ชาวท้องถิ่นต่างเชื่อฟังคำสอนของพระเยซู สามัคคีและช่วยเหลือจุนเจือกันเพื่อหลุดพ้นจากความยากจนเพื่อให้หมู่บ้านไถ่กี๊มีความสุข สวยงาม ร่ำรวยและยั่งยืนยิ่งขึ้น ปัจจุบัน ถ้ากลับมาเยือนหมู่บ้านไถ่กี๊ เราสามารถขับรถจักรยานยนต์โดยใช้ถนนคอนกรีต เพื่อไปยังเขตชุมชนต่างๆได้ ในตลอด 10 ปีที่ผ่านมา จากครอบครัวร้อยละ 40 ที่ต้องอยู่อาศัยในบ้านที่ไม่มั่นคง แต่เดี๋ยวนี้ ไม่พบเห็นบ้านไม้ไผ่อีกแล้ว ทุกครอบครัวมีโทรศัพท์ วิทยุ มีรถจักรยานและรถจักรยานยนต์ใช้ นาย เหงียนวันเตี๊ยง ประธานแนวร่วมปิตุภูมิตัวมืองแถ่งอานได้เผยว่า“ที่ตัวเมืองมีเขตชุมชน 6 แห่งซึ่งล้วนแต่อยู่ในระดับหมู่บ้าน เขตชุมชนทั้งหมดต่างบรรลุมาตรฐานด้านวัฒนธรรม แต่ไถ่กี๊เป็นชุมชนที่โดดเด่นที่สุดเนื่องจากได้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างศาสนากับชาวบ้านเพื่อสร้างความสามัคคีกัน”
จากการลงทุนให้แก่การศึกษาและความคล่องตัวในการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวทางประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิตและปรับโครงสร้างพันธุ์พืช จนถึงปัจจุบัน หมู่บ้านไถ่กี๊ได้รับการประเมินว่าเป็นตัวอย่างในการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ในนครเกิ่นเทอและเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง./.