นาย อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไทย (Photo: The Thaiger) ในการกล่าวปราศรัยในการประชุม นาย อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไทยได้เผยว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกในยุคชีวิตวิถีใหม่หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้รับการควบคุมถือเป็นโอกาสการค้าใหม่ โดยเฉพาะในตลาดใหม่ๆ อย่างเช่นเวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง โดยมีประชากรเกือบ 100 ล้านคนและมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 7 ต่อปี เวียดนามเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 4 ของไทย รองจากสหรัฐ จีนและญี่ปุ่น เป็นตลาดการนำเข้ารายใหญ่อันดับที่ 10 ของไทย มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 20 ต่อปี จาก 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 1992 ขึ้นเป็น 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน นอกจากนี้ รัฐบาลเวียดนามได้ปฏิบัตินโยบายการส่งเสริมการค้าเสรีและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ช่วยให้เวียดนามกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งนักลงทุนไทย ซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 8 ในเวียดนาม พร้อมทั้งย้ำว่า บรรดานักธุรกิจไทยควรขยายความร่วมมือกับสถานประกอบการเวียดนามทั้งในด้านการค้าระหว่างประเทศและการลงทุนร่วมกัน ส่วนนาย รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK)ได้เห็นว่า ยังมีโอกาสมากมายสำหรับนักธุรกิจไทยในตลาดใหม่อย่างเช่นเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ด้านการเมืองและเศรษฐกิจกับหลายประเทศ พร้อมทั้งเผยว่า ไทยมีศักยภาพสูงเพื่อมีส่วนร่วมพัฒนาห่วงโซ่อุปทานของเวียดนามและโลก. Từ khóa: VOV VOVworld ไทย มีความประสงค์ ผลักดัน ความสัมพันธ์ด้านการค้า เวียดนาม Komentar Submit Xem thêm