ข้อตกลงเอฟทีเอระหว่างเวียดนามกับอียูเป็นข้อตกลงที่สมบูรณ์ที่สุดที่เวียดนามได้ลงนามกับประเทศต่างๆ ซึ่งคลอบคลุมด้านใหญ่ๆ เช่น การลงทุน การค้า การจัดซื้อของรัฐบาล การบริการ สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์  ลิขสิทธิ์ทางปัญญา สิทธิในการทำงาน  ตลอดจนสิ่งแวดล้อมการพัฒนาอย่างยั่งยืนและกว้างขวาง  ดังนั้น จะมีการแข่งขันที่เข้มข้น รวมทั้ง ผลิตภัณฑ์การเกษตรและอาหาร  “ถ้าหากคุณภาพของสินค้าไม่ดี  โดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ นมและผักผลไม้อาจเสียส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศ   อียูมีจุดแข็งในการผลิตสินค้าเหล่านี้และผู้บริโภาคเวียดนามจะนิยมใช้สินค้าของอียูถ้าหกคุณภาพสินค้าของเวียดนามไม่ดี  นอกจากนี้ ข้อตกลงดังกล่าวยังเรียกร้องให้เวียดนามต้องปรับปรุงนโยบายและข้อกำหนดให้เหมาะสม”

นาย เวืองเถื่อฟองยังเน้นว่า สถานประกอบการเวียดนาม  ซึ่งเป็นตัวหลักในกระบวนการร่วมมือและแข่งขัน  ต้องผลักดันการปฏิรูป ยกระดับคุณภาพสินค้า มีความคล่องตัว เป็นฝ่ายรุกเพื่อโช้โอกาสและความสะดวกจากข้อตกลงเอฟทีเอเวียดนาม-อียู