การแถลงนโยบายได้เริ่มขึ้นด้วยปัญหาภายในประเทศ เช่น การปรับปรุงคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน การค้ำประกันด้านสวัสดิการ เช่น ที่อยู่อาศัย การคลอดบุตรและการรักษาพยาบาล เป็นต้น โดยเฉพาะมุ่งเน้นสร้างสัญญาประชาคมที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ชาวรัสเซีย 9 ล้านคน
นายปูตินได้ตั้งเป้าหมายว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจะบรรลุร้อยละ 3 ภายในปี 2021 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคือด้านที่มีศัยภาพสูงในการสร้างก้าวกระโดดและการลงทุนจะบรรลุร้อยละ 6-7 ภายในปี 2020 รัสเซียต้องเป็นประเทศชั้นนำระดับโลกในด้านเทคโนโลยีทางพันธุกรรมและข้อมูล
สำหรับปัญหาต่างประเทศ นายปูตินเผยว่า รัสเซียให้ความสำคัญถึงความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดที่สุดคือเบลารุสและยูเครน โดยจะปฏิบัตินโยบายที่เปิดเผยต่อไปพร้อมกับการปกป้องอธิปไตยและเอกราชของประเทศและถือความสัมพันธ์กับจีน อินเดียและญี่ปุ่นคือแนวทางที่สำคัญ นายปูตินยืนยันว่า จะพยายามลงนามสนธิสัญญาสันติภาพกับญี่ปุ่นและหวังว่า สหภาพยุโรปจะมีก้าวเดินที่เป็นรูปธรรมเพื่อปรับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการเมืองกับรัสเซียให้เป็นปกติ โดยรัสเซียพร้อมสนทนาและร่วมมือบนพื้นฐานความเสมอภาคและให้ความเคารพ
ในการแถลงนโยบายประจำปี 2019 นายปูตินยังกล่าวถึงความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของรัสเซียในปัจจุบันคือ ความสัมพันธ์กับสหรัฐและการรักษาความสามารถในการป้องกันประเทศในสภาวการณ์ที่สนธิสัญญาควบคุมขีปนาวุธพิสัยกลางและพิสัยใกล้หรือไอเอ็นเอฟถูกยกเลิก พร้อมทั้งเตือนเกี่ยวกับการที่สหรัฐยังคงปฏิบัตินโยบายต่อต้านรัสเซีย ปฏิบัติมาตรการคว่ำบาตรและละเมิดกฎหมายสากลต่อไป รัสเซียมีความประสงค์ที่จะสร้างสรรค์ความสัมพันธ์ที่เสมอภาค เป็นมิตรและสมบูรณ์กับสหรัฐและพร้อมสนทนาถ้าหากสหรัฐมีความพร้อม
ประธานาธิบดี วลาดีเมียร์ ปูติน ได้เสร็จสิ้นการแถลงนโยบายด้วยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับอาวุธที่ทันสมัยของรัสเซียแต่ยังยืนยันอีกครั้งว่า อาวุธเหล่านี้ของรัสเซียก็เพื่อปกป้องอธิปไตย บูรณะภาพแห่งดินแดนและตอบโต้ภัยคุกคามต่างๆต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งก็หมายถึงการปกป้องประชาชนรัสเซีย.