ในขณะเดียวกัน มีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาจนหายดีและออกจากโรงพยาบาลอีก 21 ราย ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาจนหายดีและออกจากโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเป็น 198 ราย
ส่วนสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในทั่วโลก จนถึงเวลา 16.00น. ของวันที่17เมษายน มีผู้ติดเชื้อ2,190,726รายใน210ประเทศและดินแดน และมีผู้เสียชีวิต147,051ราย
สหรัฐยังคงเป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาด โดยมีผู้ติดเชื้อ 678,210ราย รองลงมาคือสเปน 184,948 ราย อิตาลี 168,941 ราย ฝรั่งเศส 165,027 ราย และเยอรมนี 138,135 ราย
นาย แอนดรูว์ โคโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กได้ประกาศว่า จะขยายเวลาล็อกดาวน์ไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคมถึงแม้จำนวนผู้เสียชีวิตในช่วง24ชั่วโมงที่ผ่านมาได้ลงลงต่ำที่สุดในรอบ 10 วันและเผยว่า ถ้าหากจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงก็จะพิจารณาการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ
ส่วนรัฐบาลเม็กซิโกได้ขยายเวลาการปฏิบัติการเว้นระยะห่างทางสังคมออกไปอีก1 เดือนคือจนถึงวันที่ 30 พฤษภาคม
ส่วนที่ยุโรป ทางการสวิสเซอร์แลนด์ได้ประกาศแผนเปิดร้านค้าและโรงเรียนตามระยะต่างๆ แต่ยังคงการปฏิบัติการเว้นระยะห่างทางสังคมต่อไป ส่วนนาย Leo Varadkar นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ได้ประกาศว่า การผ่อนปรนมาตรการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดอาจจะใช้เวลาหลายเดือน ในขณะที่รัฐสภาโรมาเนียได้ประกาศว่า จะขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 1เดือนคือจนถึงวันที่ 14พฤษภาคม ส่วนตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน ประเทศบัลแกเรียจะปิดกรุงโซเฟีย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
ที่ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 16 เมษายน ผู้บริหารรัฐสภาอังกฤษได้อนุมัติแผนจัดการประชุมสภาล่างผ่านแอปพลิเคชัน Zoom เป็นครั้งแรกเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 นอกจากนี้ รัฐบาลอังกฤษมีแผนประกาศขยายเวลาการปฏิบัติการเว้นระยะห่างทางสังคมออกไป
ส่วนที่เอเชีย กัมพูชาได้ประกาศว่า จะขยายเวลาการปฏิบัติคำสั่งห้ามผู้ที่เดินทางจากสหรัฐ อิหร่านและ4 ประเทศในยุโรปเข้าประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
ส่วนที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน วันที่ 17 เมษายน มีการแก้ไขตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 โดยจนถึงวันที่ 16 เมษายน มีผู้ติดเชื้อสะสม 50,333รายและผู้เสียชีวิต3,869ราย
ส่วนสิงคโปร์ได้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 728ราย ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศนี้เพิ่มขึ้นเป็น 4,427 ราย.