บรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมการสัมมนา |
โครงการนี้ได้รับการจัดทำเมื่อปี 2000 ตามมติที่ 1325 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อค้ำประกันสิทธิของสตรี เด็กหญิงและส่งเสริมการเข้าร่วมของสตรีในทุกขั้นตอนของการแก้ไขการปะทะและสร้างสรรค์สันติภาพ นาย โด๊ะหุ่งเหวียด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เผยว่า จนถึงปัจจุบัน โครงการนี้ได้เป็นกรอบที่สำคัญและเป็นพื้นฐานให้แก่การระดมแหล่งพลังเพื่อจัดกิจกรรมช่วยเหลือสตรีในเขตที่เกิดการปะทะและวิกฤต ปกป้องสิทธิและส่งเสริมบทบาทของสตรีในสังคม พร้อมทั้งย้ำว่า สตรีเวียดนามมีส่วนร่วมที่สำคัญในภารกิจการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชาติ สร้างสรรค์ประเทศและสร้างอัตลักษณ์ของประชาชาติเวียดนาม อีกทั้งเป็นเจ้าหน้าที่ นักธุรกิจและทหารที่เข้าร่วมกิจกรรมรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ และยืนยันว่า รัฐเวียดนามให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อการผลักดันบทบาทของสตรีในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ ซึ่งเวียดนามได้ยืนยันเรื่องนี้ในการเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2008-2009 โดยได้ส่งเสริมให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอนุมัติมติที่ 1889 เมื่อปี 2009 เกี่ยวกับบทบาทของสตรีและเด็กหญิงหลังการปะทะ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 มติที่สำคัญของระเบียบวาระการประชุมเกี่ยวกับสตรี สันติภาพและความมั่นคงของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และเวียดนามเป็นประเทศที่มีอัตราทหารหญิงที่เข้าร่วมกิจกรรมรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในระดับสูงคือร้อยละ 16 และย้ำว่า สตรีและเด็กหญิงคือแหล่งพลังที่สำคัญให้แก่การฟื้นฟูที่ยั่งยืนหลังวิกฤต ซึ่งควรได้รับการส่งเสริมอย่างเต็มที่
การสัมมนานี้จะจัดไปจนถึงวันที่ 7 ฤศจิกายน.