ภาพการพบปะ (VNA) |
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เสนอให้ทั้งสองประเทศธำรงการเติบโตทางการค้าตามแนวทางที่สร้างความสมดุลมากขึ้น พยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 1หมื่น 5พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2028 เสนอให้รัฐบาลทั้งสองประเทศส่งเสริมให้สถานประกอบการขยายการลงทุน โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจแห่งสีเขียว การปรับเปลี่ยนด้านพลังงาน การพัฒนาระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้า เสนอให้อินโดนีเซียอำนวยความสะดวกให้แก่สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ฮาลาลของเวียดนามในการเจาะตลาดอินโดนีเซีย ร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบห่วงโซ่อุปทานเชิงยุทธศาสตร์และให้การรับรองความพยายามของเวียดนามในการบริหารจัดการเรือประมงและแก้ไขปัญหาการจับปลาอย่างผิดกฎหมาย ไม่รายงานและไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือ IUU
ส่วนนาย โจโก วีโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ได้แสดงความยินดีต่อสถานประกอบการเวียดนาม รวมถึงบริษัท Vinfast ที่เข้ามาลงทุนในอินโดนีเซีย ผลักดันความร่วมมือด้านพลังงานหมุนเวียน ระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมทั้งเสนอให้ขยายความร่วมมือทางทะเล อาชีพประมงอย่างยั่งยืนและลงนามบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือด้านอาชีพประมงโดยเร็ว
สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก ผู้นำทั้งสองท่านได้ยืนยันอีกครั้งถึงการสนับสนุนการธำรงความสามัคคีและหลักการต่างๆของอาเซียน โดยเฉพาะการที่อาเซียนและจีนบรรลุการจัดทำระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีอย่างมีประสิทธิภาพโดยเร็ว สอดคล้องกับกฎหมายสากลและอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982
ในวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ให้การต้อนรับผู้บริหารเครือบริษัท Ciputra, TravelokaและModena ของอินโดนีเซีย.