นาย บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามและนาย แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ) |
ในการนี้ นาย แอนโทนี บลิงเคน ได้ยืนยันว่า สหรัฐให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุธศาสตร์ในทุกด้านกับเวียดนาม สนับสนุนเวียดนามที่พัฒนาอย่างเข้มแข็ง มีเอกราช พึ่งตนเอง เจริญรุ่งเรือง เดินหน้าเปลี่ยนแปลงใหม่ ขยายการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก มีบทบาทที่นับวันสำคัญมากขึ้นในอาเซียน ภูมิภาคและโลก พร้อมทั้งย้ำถึงคำมั่นของสหรัฐเกี่ยวกับการปฏิบัติกรอบความสัมพันธ์ใหม่และข้อตกลงระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ ส่วนรัฐมนตรี บุ่ยแทงเซิน ได้ยืนยันว่า สหรัฐคือหุ้นส่วนที่สำคัญเชิงยุทธศาตร์ของเวียดนาม ซึ่งเวียดนามจะร่วมกับสหรัฐปฏิบัติความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านอย่างมีประสิทธิภาพ จริงจัง มีเสถียรภาพ ขยายความร่วมมือในด้านใหม่ๆ บนพื้นฐานของการให้ความเคารพเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดนและระบอบการเมืองของกันเพื่อธำรงการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีในหลายทศวรรษข้างหน้า
รัฐมนตรีทั้งสองท่านได้เห็นพ้องเกี่ยวกับการส่งเสริมกลไกการสนทนาระดับรัฐมนตรีการต่างประเทศ ปฏิบัติกลไกความร่วมมือต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงกลไกการสนทนาด้านการเมือง ความมั่นคง กลาโหม นโยบายด้านกลาโหม สิทธิมนุษยชน การประสานงานในการจัดกิจกรรมรำลึกครบรอบ 30 ปี การปรับความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐให้เป็นปกติ
เกี่ยวกับปัญหาในภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน รัฐมนตรี บุ่ยแทงเซิน ได้เสนอให้สหรัฐมีบทบาทที่เข้มแข็งเพื่อมีส่วนร่วมรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในเอเชีย-แปซิฟิก มหาสมุทรอินเดียและโลก โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงปัญหาทะเลตะวันออก โดยเห็นพ้องเกี่ยวกับความสำคัญของสันติภาพ ความมั่นคง เสถียรภาพ เสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก แก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธีและสอดคล้องกับกฎหมายสากล.