นายPhạm Bình Minh รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม(Photo:Internet )

(VOVworld) –  เมื่อวันที่๑๑เดือนนี้ ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชาได้มีการจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศASEANกับแต่ละประเทศหุ้นส่วนรวม๑๐ประเทศคือออสเตรเลีย แคนาดา จีน สหภาพยุโรปหรืออียู อินเดีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ สาธารณรัฐเกาหลี รัสเซียและสหรัฐ ซึ่งนายPhạm Bình Minh รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้นำคณะผู้แทนเวียดนามเข้าร่วมและกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมครั้งต่างๆโดยเสนอให้อาเซียนและบรรดาหุ้นส่วนปฏิบัติโครงการร่วมมือที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพและตรงตามหมายกำหนดการต่อไปพร้อมทั้งผลักดันความร่วมมือในด้านที่ประสานผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน เช่น เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การพัฒนาแหล่งบุคลากร เทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาศาสตร์และการรับมือกับการท้าทายที่กำลังเกิดขึ้น โดยบรรดาหุ้นส่วนควรให้การสนับสนุนและมีส่วนร่วมที่เป็นรูปธรรมให้แก่ความพยายามสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน ความร่วมมือและการเชื่อมโยงในภูมิภาค การลดความเหลื่อมล้ำของการพัฒนา การพัฒนาอนุภูมิภาค ซึ่งรวมไปถึง อนุภูมิภาคแม่น้ำโขง ให้การสนับสนุนบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในฟอรั่มภูมิภาค เช่น ASEAN+1  ASEAN+3  EAS ARF ADMM+        ในฐานะเป็นประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับจีน  รัฐมนตรี Phạm Bình Minh และนายหยางเฉียสือรัฐมนตรีต่างประเทศจีนได้เป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน จีน ในการนี้ รัฐมนตรีPhạm Bình Minhได้ยืนยันว่า เวียดนามจะมีส่วนร่วมให้แก่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อาเซียน จีนเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองต่อไป   
 ในที่ประชุมระหว่างรัฐมนตรีอาเซียนกับบรรดาหุ้นส่วนเกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออก รัฐมนตรีPhạm Bình Minh ย้ำว่า หลักการเกี่ยวกับการเคารพอำนาจอธิปไตยและอำนาจศาลของประเทศริมฝั่งทะเลที่มีต่อเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปควรได้รับการปฏิบัติตามข้อกำหนดของอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฏหมายทางทะลปี๑๙๘๒หรือUNCLOS  แก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธี ไม่ใช้กำลัง ให้ความเคารพกฏหมายสากล โดยเฉพาะกฏหมายทางทะลปี๑๙๘๒และเจตนารมณ์ของแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการปฏิบัติของฝ่ายต่างๆในทะเลตะวันออกหรือDOC และจัดทำประมวลระเบียบการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือCOCโดยเร็ว   ในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน EU รัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามได้รับมอบหมายให้เป็นประเทศผู้ประสานงานด้านความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับ EUตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี๒๐๑๒ถึงเดือนกรกฎาคมปี๒๐๑๕            
นอกรอบการประชุมครั้งต่างๆ รัฐมนตรีPhạm Bình Minhได้มีการพบปะทวิภาคีกับรัฐมนตรีต่างประเทศจีน แคนาดา ปากีสถาน และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี(เกาหลีเหนือ)เกี่ยวกับปัญหาทวิภาคีและปัญหาสำคัญของการประชุมโดยในการเจรจากับรัฐมนตรีต่างประเทศจีนหยางเฉียสือเกี่ยวกับมาตรการผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับจีนในอนาคต ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า จะธำรงการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะ การพบปะแลกเปลี่ยนระดับสูง ผลักดันสัมพันธไมตรีและความร่วมมือในทุกด้านระหว่งสองประเทศ  เกี่ยวกับปัญหาในทะเล ทั้งสองฝ่ายยืนยันว่า จะแก้ไขข้อขัดแย้งโดยผ่านการเจรจาอย่างสันติ มิตรภาพ ให้ความเคารพและให้ความสนใจถึงผลประโยชน์อันชอบธรรมของแต่ละฝ่ายบนพื้นฐานของความเข้าใจร่วมของผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศ และข้อตกลงเกี่ยวกับหลักการขั้นพื้นฐานเพื่อชี้นำการแก้ไขปัญหาในทะเล           

รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามกับรัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา (Photo:Internet )

ในการเจรจากับนายJohn Baird รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา รัฐมนตรีPhạm Bình Minhย้ำว่า ทั้งสองฝ่ายควรผลักดันการเยือนของผู้นำทั้งสองประเทศและเห็นว่า ยังมีโอกาสและศักยภาพมากมายเพื่อขยายความร่วมมือระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะ ในด้านการค้า การลงทุนและเสนอให้มีกิจกรรมที่เป็นรูปธรรมเพื่อขยายความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายในโอกาสรำลึกครบรอบ๔๐ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี๒๐๑๓

รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามกับรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศปากีสถาน(Photo:Internet)

            ส่วนในการพบปะกับนางHina Rabbani Khar รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศปากีสถาน นางHina Rabbani Kharได้ยืนยันว่า จะให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อความสัมพันธ์กับเวียดนามและแสดงความประสงค์ที่จะผลักดันการเยือนระดับสูงระหว่างสองประเทศ และย้ำว่า ในอนาคต สองฝ่ายควรแสวงหามาตรการเพื่อขยายความสัมพันธ์ เช่น พิจาณาการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีและผลักดันความร่วมมือในด้านการเกษตร สิ่งทอเสื้อผ้าสำเร็จรูป ปีโตรเลี่ยมและเภสัชภัณฑ์      ส่วนในการพบปะกับนายปาร์คอึยชุนรัฐมนตรีต่างประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชานเกาหลี (เกาหลีเหนือ) สองฝ่ายได้วางมาตรการต่างๆเพื่อส่งเสริมสัมพันธไมตรีและความร่วมมือที่มีมาช้านานระหว่างเวียดนามกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีให้พัฒนายิ่งขึ้นเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ เพื่อสันติภาพ เสถียภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาค./.