นาย เลหายบิ่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม

(VOVworld) - ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนประจำเมื่อบ่ายวันที่ 14 กรกฎาคม ณ กรุงฮานอย เนื้อหาที่ได้รับความสนใจของบรรดานักข่าวคือปฏิกิริยาของเวียดนามต่อคำวินิจฉัยของศาลประจำอนุญาโตตุลาการ ณ กรุงเฮกหรือพีซีเอเกี่ยวกับคดีฟิลิปปินส์ฟ้องร้องจีนว่าด้วยการพิพาทในทะเลตะวันออก  โดยนาย เลหายบิ่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ยืนยันถึงทัศนะของเวียดนามหลังจากที่พีซีเอมีคำวินิจฉัยและเวียดนามจะมีแถลงการณ์เกี่ยวกับเนื้อหาของคำวินิจฉัยดังกล่าวและยืนยันอีกครั้งถึงเนื้อหาสำคัญที่ระบุในประกาศของกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามที่ส่งถึงศาลพีซีเอเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมปี 2015ว่า“เวียดนามให้การสนับสนุนการปฏิบัติตามอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982อย่างสมบูรณ์ รวมถึงการแก้ไขปัญหาการพิพาทที่เกี่ยวข้องกับการใช้อนุสัญญาเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้ง เวียดนามยืนยันอีกครั้งถึงสิทธิผลประโยชน์ที่ชอบธรรมในทะเลตะวันออก รวมถึงอธิปไตยเหนือหมู่เกาะหว่างซา หรือ พาราเซลและเจื่องซา หรือ สเปรตลีย์ รวมทั้งเขตทะเลต่างๆที่ถูกกำหนดตามอนุสัญญาฯ เวียดนามหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พีซีเอจะใช้อนุสัญญาฯเพื่อตีความและมีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับคดีดังกล่าวอย่างมีภาวะวิสัยและยุติธรรม เวียดนามขอเสนอให้พีซีเอให้ความสนใจต่อสิทธิผลประโยชน์อันชอบธรรมของเวียดนามในทะเลตะวันออกและเวียดนามจะพิจารณาก้าวเดินต่อไปเพื่อปกป้องสิทธิผลประโยชน์แห่งชาติ”
ในการตอบคำถามเกี่ยวกับท่าทีของเวียดนามต่อการที่จีนได้ส่งเครื่องบินพลเรือนพร้อมทั้งดำเนินงานประภาคารบางแห่งในพื้นที่บางส่วนในหมู่เกาะเจื่องซาหรือสเปรตลี่ของเวียดนาม นายเลหายบิ่งได้ย้ำว่า เวียดนามขอยืนยันอีกครั้งว่ามีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และพื้นฐานทางนิตินัยที่ชัดเจนเพื่อยืนยันอธิปไตยเหนือหมู่เกาะหว่างซาและเจื่องซา ซึ่งการเคลื่อนไหวของจีนที่ไม่สนใจการคัดค้านของเวียดนามและความวิตกกังวลของประชาคมระหว่างประเทศเป็นการละเมิดอธิปไตยของเวียดนามอย่างอุกอาจและผิดกฎหมาย ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าเวียดนามมีอธิปไตยเหนือหมู่เกาะสองแห่งดังกล่าว เวียดนามเรียกร้องให้จีนยุติการเคลื่อนไหวที่ละเมิดอธิปไตยของเวียดนามและปฏิบัติตามกฎหมายสากลอย่างจริงจังเพื่อไม่ทำให้สถานการณ์ในทะเลตะวันออกมีความซับซ้อนมากขึ้น"