 นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งประเมินว่า การแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างอาเซียนกับอียูมีสัญญาฟื้นฟูและขยายตัว |
หนังสือพิมพ์ออนไลน์"EU Today" ได้ลงบทความที่พาดหัวว่า “ผลักดันความสัมพันธ์กับอาเซียน ประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ของสหภาพยุโรปหรืออียู” โดยย้ำถึงสถานะและบทบาทของอาเซียนรวมทั้งเวียดนามในกระบวนการปรับปรุงนโยบายในภูมิภาคของอียูเพื่อรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจและธำรงสถานะของยุโรป บทความยังชี้ชัดถึง 4 ด้านความร่วมมือที่ต้องผลักดัน เช่น เศรษฐกิจ การค้าและนโยบายด้านความมั่นคง พร้อมทั้งยืนยันว่า เศรษฐกิจเวียดนามเป็นปัจจัยที่สำคัญในห่วงโซ่อุปทานและคุณค่าเศรษฐกิจของอาเซียน โดยมีความได้เปรียบต่างๆ เช่น เศรษฐกิจมหภาคที่มีเสถียรภาพ คล่องตัว ตลาดอุปโภคบริโภคนับวันยิ่งได้รับการขยาย สถานการณ์การเมืองมีเสถียรภาพ มีจุดยืนที่เสมอต้นเสมอปลายในนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจและการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ
ส่วนหนังสือพิมพ์ “The Brussels Times” ของเบลเยียมฉบับวันที่ 12 ธันวาคมได้ลงบทความที่พาดหัวว่า “เวียดนาม-หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน จุดเด่นด้านการลงทุนของอียูในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” โดยย้ำว่า มีศักยภาพมากมายเพื่อผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือกับหุ้นส่วนต่างๆในภูมิภาคของอียู รวมทั้งเวียดนามอย่างมีประสิทธิภาพและเข้มแข็งมากขึ้น
สื่อต่างๆของเบลเยียมเห็นว่า การเยือนเบลเยียมอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งในระหว่างวันที่ 13-15 ธันวาคมจะเป็นนิมิตหมายใหม่และเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่.