บรรดารัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอาเซียนในการประชุม
|
(VOVworld) – บ่ายวันที่ 28 ตุลาคม ณ กรุงฮานอย นายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุงได้เข้าร่วมและกล่าวปราศรัยเปิดการประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอาเซียนครั้งที่ 13 การประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอาเซียน+3 ครั้งที่ 14 และการประชุมต่างๆที่เกี่ยวข้องโดยมีรัฐมนตรี หัวหน้าคณะ เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศคู่เจรจาคือจีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลีและเลขาธิการอาเซียน เลเลืองมิงห์เข้าร่วม
ในการกล่าวปราศรัยเปิดการประชุม นายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุงได้ยืนยันว่า จากการปฏิบัติวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนปี 2025 เวียดนามให้คำมั่นที่จะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อมีส่วนร่วมต่อความร่วมมือในภูมิภาคภายใต้แนวทาง “เป็นฝ่ายรุก กระตือรือร้นและมีความรับผิดชอบ” มีส่วนร่วมสร้างสรรค์อาเซียนที่มีความเหนียวแน่น สามัคคี มีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์และมีบทบาทที่สำคัญมากขึ้นในภูมิภาคและโลก นายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุงได้ย้ำว่า ประเทศสมาชิกอาเซียนให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้และบริหารแหล่งทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนซึ่งได้บรรลุผลงานที่น่ายินดี อาเซียนยังเข้าร่วมกรอบสนธิสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ขยายความร่วมมือเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกับหุ้นส่วนต่างๆ นายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุงได้ย้ำว่า “ปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ มลภาวะสิ่งแวดล้อม ความมั่นคงด้านอาหารและแหล่งน้ำได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ของภูมิภาคและโลกซึ่งไม่มีประเทศใดประเทศหนึ่งหรือประเทศมหาอำนาจใดสามารถแก้ไขได้โดยลำพังหากต้องมีความร่วมมือของประชาคมโลกซึ่งเป็นภาระหนักและลำบากต่อแต่ละประเทศคือเน้นพัฒนาเศรษฐกิจและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดี ถือการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมคือทั้งเป้าหมายและเนื้อหาขั้นพื้นฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน”
นายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุง ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า การประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอาเซียนและการประชุมประเทศคู่เจรจาอาเซียน+3 ครั้งนี้จะกำหนดแนวทาง โครงการ แผนการร่วมมือที่เป็นรูปธรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน รับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ปฏิบัติโครงการระเบียบวาระการประชุมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนและวิสัยทัศน์ถึงปี 2030 ของสหประชาชาติให้ประสบความสำเร็จ เพื่อมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อผลสำเร็จของการประชุมทุกฝ่ายที่เข้าร่วมกรอบสนธิสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศหรือ COP-12 ที่จะมีขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ณ กรุงปารีสโดยเวียดนามจะร่วมกับประชาคมโลกประกาศระดับการสนับสนุนโดยประเทศเป็นผู้ตัดสินใจเองหรือ INDC เกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจก.