นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม

การประชุมถูกจัดขึ้นหลังจากที่ ธนาคารกลางสหรัฐหรือ FED เพิ่มดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.75 เมื่อค่ำวันที่ 27 กรกฎาคมและธนาคารกลางของหลายประเทศได้เพิ่มดอกเบี้ยหลายครั้งเพื่อรับมือภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น

ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งได้ย้ำว่า สถานการณ์ในโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อนและยากที่จะคาดเดาได้  อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น เงินสกุลของหลายประเทศอ่อนค่าลงและการเปลี่ยนแปลงนโยบายในหลายประเทศได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อเวียดนามในหลายด้าน โดยเฉพาะการส่งออกและการนำเข้า ราคาน้ำมัน เป็นต้น จากสถานการณ์ดังกล่าว นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งได้กำชับให้กระทรวงและหน่วยงานต่างๆเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เป็นฝ่ายรุกในการประกาศนโยบายที่เหมาะสม ทันการณ์และมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งย้ำว่า หน้าที่หลักคือรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ผลักดันการฟื้นฟูและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เน้นงานด้านการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 โดยเฉพาะการผลักดันการฉีดวัคซีน ผลักดันการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ เปลี่ยนแปลงใหม่รูปแบบการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผลักดันการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล การพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจหมุนเวียน การปรับเปลี่ยนการใช้พลังงาน การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเพื่อสร้างพื้นฐานให้แก่การพัฒนาอย่างยั่งยืน.