นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กเป็นประธานการประชุมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
|
(VOVworld) – บ่ายวันที่ 26 ตุลาคม หลังการจัดกิจกรรมต่างๆในกรอบการประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจโลกแม่น้ำโขง การประชุมระดับสูงCLMV8 และการประชุม ACMECS 7 นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้เป็นประธานการประชุมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนโดยยืนยันว่า เวียดนามเป็นเจ้าภาพจัด 3 การประชุมดังกล่าวร่วมกันให้ประสบความสำเร็จ โดยในการประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจโลกแม่น้ำโขง ความคิดริเริ่มของเวียดนามได้รับคำชื่นชมจากประเทศและหุ้นส่วนพัฒนา โดยทุกฝ่ายได้แสนอแนวทางเกี่ยวกับการขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การขยายตัวอย่างครอบคลุม พยายามสร้างสรรค์สังคมที่มุ่งสู่ประชาชน รับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างทันการณ์ พร้อมทั้งเสนอมาตรการแก้ไขที่เป็นรูปธรรมต่อโครงการระดับภูมิภาคเพื่อสร้างความเชื่อมโยงใน ACMECS และ CLMV ทุกประเทศเห็นว่า ต้องเพิ่มความสัมพันธ์ภายในกลุ่มให้ดีขึ้นพร้อมกับการขยายความสัมพันธ์กับบรรดาประเทศพัฒนาและกลุ่มประเทศนำหน้าในอาเซียน อียู จีนและประเทศอื่นๆที่มาจากความร่วมมือกับหุ้นส่วนพัฒนา เช่น WB และ ADB สำหรับผลการประชุมเหล่านี้ นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กเผยว่า “ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับมาตรการระดมแหล่งพลังเพื่อการพัฒนาและพัฒนาศักยภาพของภูมิภาคแม่น้ำโขง นอกจากนี้ได้เสนอโอกาสและความท้าทายของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ต่อกระบวนการเปลี่ยนแปลงใหม่เป็นเขตอุตสาหกรรมที่ทันสมัยในภูมิภาคและมาตรการสร้างความเชื่อมโยง ตลอดจนมาตรการขยายความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกับชมรมนักธุรกิจ โดยย้ำว่า บรรดาประเทศสมาชิก CLMV มีการพัฒนาช้ากว่าเนื่องจากประวัติศาสตร์และสภาพธรรมชาติที่ลำบาก ดังนั้นต้องการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนให้ดีขึ้นและการประยุกต์ใช้ระบบเศรษฐกิจอิจิตอลให้ทันการณ์เพื่อส่งเสริมศักยภาพและจุดแข็ง โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยว เทคโนโลยีอินทรีย์ เทคโนโลยีสารสนเทศ”
นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กยังเผยว่า โอกาสนี้บรรดานักลงทุนได้ศึกษาโครงการที่มีความเป็นไปได้สูงเพื่อลงทุนในบรรดาประเทศ CLMV และ ACMECS พร้อมทั้งชื่นชมเนื้อหาที่ประเทศเจ้าภาพเวียดนามเสนอและเห็นว่าต้องมีโครงการใหญ่ๆระดับภูมิภาคเพื่อเชื่อมโยงทุกประเทศ โดยเฉพาะในด้านคมนาคม ไฟฟ้า เศรษฐกิจและการขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการพัฒนาของกลุ่ม สำหรับประเทศเวียดนามก็ต้องมีการปฏิรูปเพื่อยกระดับบรรยากาศการลงทุน ประกอบธุรกิจเพื่อกลายเป็นประเทศแถวหน้าของอาเซียน.