(VOVworld)-ในโอกาสเยือนญี่ปุ่นและเข้าร่วมการประชุมสุดยอดจี7 วันที่28พฤษภาคม หลังพิธีต้อนรับที่มีขึ้น ณ กรุงโตเกียว นายกฯญี่ปุ่นชินโซอาเบะได้เจรจาทวิภาคีและจัดงานเลี้ยงต้อนรับท่านเหงวียนซวนฟุก นายกฯเวียดนาม

นายกฯญี่ปุ่นชินโซอาเบะได้ต้อนรับท่านเหงวียนซวนฟุก นายกฯเวียดนาม (VGP/QuangHieu)

โอกาสนี้นายกฯทั้งสองประเทศได้หารือมาตรการต่างๆเพื่อนำความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทวิภาคีพัฒนาในทุกด้านและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต เห็นพ้องกับการกระชับความไว้วางใจทางการเมืองผ่านการธำรงการเยือนระดับสูงและการพบปะนอกรอบเวทีระหว่างประเทศ ยกระดับประสิทิภาพกลไกการสนทนาระหว่างสองประเทศ ผลักดันความร่วมมือด้านกลาโหมและความร่วมมือในภารกิจการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติและการแก้ไขผลเสียหายจากสงคราม ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันกระชับความร่วมมือให้แน่นแฟ้นมากขึ้นเพื่อผลักดันความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ ผลักดันการลงทุนของญี่ปุ่นในเวียดนามผ่านการปฏิบัติระยะที่6ของข้อคิดริเริ่มร่วมเวียดนาม-ญี่ปุ่นปี2016 ยืนยันความร่วมมือในการปฏิบัติยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมเวียดนามในกรอบความร่วมมือทวิภาคีถึงปี2020และวิสัยทัศน์2030 ผลักดันการปฏิบัติโครงการใหญ่ด้านโครงสร้างพื้นฐานระหว่างสองประเทศ นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับมาตรการผลักดันความร่วมมือทางการค้า การเกษตร เทคโนโลยีขั้นสูง สาธารณสุข  การฝึกอบรมบุคลากร การรับนักศึกษาเวียดนามมาศึกษาวิจัยในญี่ปุ่น ดำเนินโครงการก่อสร้างมหาวิทยาลัยเวียดนาม-ญี่ปุ่น ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน เกี่ยวกับการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นายกฯญี่ปุ่นประกาศสนับสนุนเงินช่วยเหลือในรูปให้เปล่าฉุกเฉิน2.5ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องพร้อมทั้งยืนยันว่าญี่ปุ่นพร้อมพิจารณาการสนับสนุนเงินโอดีเอให้เวียดนามก่อสร้างเขื่อนและอ่างเก็บน้ำต่างๆตามข้อเสนอของเวียดนาม

เกี่ยวกับปัญหาระหว่างประเทศ นายกฯญี่ปุ่นให้ความสนใจความวิตกกัลวลของประชาคมระหว่างประเทศต่อสถานการณ์ทะเลตะวันออกเมื่อเร็วๆนี้ โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวเพื่อปรับปรุงเกาะต่างๆ โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องเกี่ยวกับความสำคัญของการรักษาสันติภาพ ความมั่นคงและความปลอดภัยการเดินเรือและเดินอากาศในทะเลตะวันออก โดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะไม่มีปฏิบัติการที่มุ่งเปลี่ยนแปลงสภาพเดิมและเพิ่มความตึงเครียดด้วยการขยายกิจกรรมทางทหารในทะเลตะวันออก ร่วมแก้ไขปัญหาข้อพิพาทอย่างสันติบนพื้นของกฎหมายสากล  

หลังการเจรจานายกฯทั้งสองประเทศเป็นสักขีพยานการแลกเปลี่ยนเอกสารความร่วมมือที่ได้ลงนามระหว่างสองฝ่ายรวม5ฉบับ ซึ่งเป็นโครงการกูเงินโอดีเอรวมมูลค่า1.5พันล้านดอลลาร์สหรัฐและสัญญาซื้อหุ้นระหว่างเครือบริษัทการเดินอากาศเวียดนามกับเครือบริษัทการเดินอากาศ เอเอ็นเอ โฮล์ดิงส์ และเข้าร่วมการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

ในวันเดียวกัน นายกฯเหงวียนซวนฟุกได้ให้การต้อนรับผู้บริการองค์กรและเครือบริษัทต่างๆของญี่ปุ่น.