|
เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามพบปะกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกรุงฮานอย (Internet) |
(VOV) – เพื่อเตรียมจัดการประชุมครั้งที่ 4 ของรัฐสภา เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ท่าน NguyễnPhúTrọng เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ผู้แทนรัฐสภาสมัยที่ 13 และสมาชิกคณะผู้แทนรัฐสภาของกรุงฮานอยได้ลงพื้นที่พบปะกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเขต HoànKiếm และ TâyHồ ในการนี้ ท่าน NguyễnPhúTrọng ได้ชื่นชมความคิดเห็นที่แสดงให้เห็นถึงความรับผิตชอบของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งของ 2 เขตดังกล่าวต่อรัฐสภา“การออกมติและแนวทางต่างๆเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่เมื่อได้รับการปฏิบัติกลับเป็นไปอย่างล่าช้าจนทำให้เกิดปัญหาคือ หลังจากออกมติแล้ว แต่หลายปีให้หลังเมื่อกลับไปพิจารณาใหม่ก็เห็นว่า การออกมติถือว่าถูกต้อง แต่สถานการณ์การปฏิบัติไม่มีการเปลี่ยนแปลง แถมปัญหายิ่งย่ำแย่ลงซึ่งนี่คือข้อบกพร่องของพวกเรา โดยเฉพาะการชี้นำการปฏิบัติ สิ่งนี้เกิดจากปัญหาสายการบังคับบัญชาที่ขาดความเคร่งครัดและความเป็นรูปธรรมในการปฏิบัติแนวทางของรัฐสภาและสภาประชาชน นอกจากนั้น ยังมีกรณีคือ เมื่อวางแนวทางแล้วก็ไม่สนใจถึงการตรวจสอบเร่งรัดการปฏิบัติและทำการสรุปและระบุปัญหาที่ต้องชี้นำการปฏิบัติซึ่งมติการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่4เมื่อเร็วๆนี้เป็นก้าวกระโดดใหม่ที่เน้นชี้นำการปฏิบัติและเป็นแบบอย่างเพื่อชี้นำการปฏิบัติมติ” ท่านเลขาธิการใหญ่ได้ยืนยันว่า ที่ประชุมรัฐสภาครั้งนี้จะอภิปรายถึงการแก้ไขกฏหมายที่ดินปี 2013 โดยเพิ่มความเข้มงวด ความชัดเจนและความเป็นเอกภาพเพื่อจำกัดปัญหาดังกล่าว พร้อมทั้งกล่าวถึงความตั้งใจอันแนวแน่ของพรรคและรัฐในการป้องกันและปราบปราบการคอร์รัปปชั่นและการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ท่าน NguyễnPhúTrọng ได้ย้ำว่า“ต้องทำอย่างไรให้มีกฏหมายและให้การศึกษายกระดับจิตสำนึกเพื่อป้องกันไม่ให้คนที่เตรียมทำทุจริตไม่สามารถทำการได้ นี่ก็หมายความว่า พวกเราได้ประสบความสำเร็จ ขณะนี้ การใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยเป็นปัญหาที่เร่งด่วน เช่น ด้านที่ดิน ทรัพยากร เงินทอง ทรัพย์สิน เวลา แรงงาน การจัดการประชุม งานเทศกาลและการเดินทางไปเยี่ยมเยือนกันที่มากเกินความจำเป็น”ท่านเลขาธิการใหญ่พรรค NguyễnPhúTrọng ได้ยืนยันว่า การปฏิบัติมติการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่4 สมัยที่ 11 เกี่ยวกับการสร้างสรรค์พรรคได้บรรลุผลงานเบื้องต้นโดยผู้นำของพรรคสาขา องค์กรพรรคจากส่วนกลางถึงท้องถิ่น สมาชิกพรรคแต่ละคน โดยเฉพาะหัวหน้าขององค์กรพรรคต้องปฏิบัติการวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นเป็นอย่างดีต่อไป./.