|
(VOVworld)-งานเฟสตีวัลมรดกกว๋างนามครั้งที่ ๕ ปี ๒๐๑๓ ในหัวข้อ วัฒนธรรมเวียดนามและอาเซียนได้เปิดขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อค่ำวันที่22มิถุนายน ณ เมืองเก่าฮอยอาน ซึ่งเป็นกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่สำคัญเพื่อรำลึก10ปีการปฏิบัติอนุสัญญายูเนสโกเกี่ยวกับการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมนามธรรมของเวียดนาม เป็นโอกาสให้เวียดนามและยูเนสโกกระชับความร่วมมือและความไว้วางใจในงานด้านการอนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมของมรดกทั้งรูปธรรมและนามธรรมของประชาชาติอาเซียน กระชับการสังสรรค์แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศในภูมิภาคและมิตรประเทศ รองนายกฯเหงวียนซวนฟุกได้กล่าวปราศรัยในพิธีเปิดงานว่า มรดกวัฒนธรรมไม่เพียงแต่เป็นสมบัติอันล้ำค่าของแต่ละชาติเท่านั้นหากเป็นสมบัติร่วมของทั้งมนุษยชาติทั่วโลกอีกด้วย ดังนั้นการส่งเสริมการอนุรักษ์และพัฒนาคุณค่าของมรดกวัฒนธรรมก็เป็นส่วนงานที่ต้องปฏิบัติควบคู่กับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในเวลาที่ผ่านมา พรรคและรัฐเวียดนามได้ให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่ามรดกวัฒนธรรมต่างๆอยู่เสนอโดยนายกฯได้อนุมัติแผนพัฒนามรดกวัฒนธรรมที่ยูเนสโกให้การรับรองเพื่อให้ทางการปกครองท้องถิ่นต่างๆพิจารณาวางมาตรการปฏิบัติรวมทั้งมีนโยบายที่เป็นรูปธรรมเพื่อระดมประชาชน องค์การมวลชนและสังคมทั้งในและต่างประเทศเข้าร่วม หวังว่าจากกิจกรรมที่หลากหลายในงานเฟสตีเวิลครั้งนี้ ประชาชนเวียดนามและประเทศอาเซียนจะสามารถแสวงหาเสียงพูดเดียวกันในการปฏิบัติภารกิจการอนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่าของมรดกต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนนาง อิรีนา โบโกวา ผู้อำนวยการใหญ่ของยูเนสโกกล่าวว่า
นี่คือเหตุการณ์สำคัญของทั้งเวียนามและยูเนสโก เวียดนามได้พิสูจน์ให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญของวัฒนธรรมต่อเอกลักษณ์และการสนทนาสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน นี่คือพื้นฐานของสันติภาพและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งประสบการณ์ของเวียดนามควรได้รับการถ่ายทอดให้ประเทศอื่นๆรับทราบและดิฉันก็รู้สึกดีใจเมื่อเห็นการปรากฎตัวของคณะผู้แทนประเทศอาเซียนต่างๆในงานครั้งนี้ เพราะความกลมกลืนทางสังคมวัฒนธรรมจะเป็นเสาหลักของอาเซียนในอนาคต และนี่คือสาส์นของเราในวันนี้ สาส์นแห่งสันติภาพของภูมิภาคและทั่วโลก
ในกรอบของงานเฟสตีวัลมรดกกว๋างนามครั้งที่ ๕ ปี ๒๐๑๓ เช้าวันที่23มิถุนายนได้มีการเปิดฟอรั่มการลงทุนกว๋างนามมุ่งสู่การพัฒนาแห่งสีเขียว ซึ่งถือเป็นโอกาสเพื่อให้ทางการกว๋างนามผลักดันการปฏิบัติข้อคิดริเริ่มต่างๆรวมทั้งยุทธศาสตร์การพัฒนาแห่งสีเขียวที่จะมีการเชื่อมโยงระหว่างท้องถิ่นและเปิดโอกาสการขยายตัวใหม่ให้แก่หน่วยงานเศรษฐกิจหลักเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ในวันเดียวกันได้มีการเปิดสัมมนานานาชาติเพื่อสรุป10ปีการปฏิบัติอนุสัญญาการปกป้องและอนุรักษ์วัฒนธรรมนามธรรมของยูเนศโก โดยความเห็นในที่สัมมนาได้ย้ำถึงผลงานของเวียดนามในการปฏิบัติข้อเสนอและระเบียบการต่างๆของยูเนสโกที่ระบุในอนุสัญญาอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ในเชิงรุกรวมทั้งการผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศอาเซียนในการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมต่างๆ./.