นาย เวืองดิ่งเหวะ ประธานสภาแห่งชาติ กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม

ในการกล่าวปราศรัยผ่านการบันทึกวีดิทัศน์ล่วงหน้าในการประชุมครบองค์ครั้งแรกเกี่ยวกับปัญหาทางการเมืองและความมั่นคงภายใต้หัวข้อ "บทบาทของรัฐสภาในการส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค" นาย เวืองดิ่งเหวะ ประธานสภาแห่งชาติได้ย้ำว่า เวียดนามยังคงยืนหยัดปฏิบัตินโยบายการต่างประเทศที่อิสระ พึ่งตนเอง มีความสัมพันธ์หลายรูปแบบหลายฝ่าย มุ่งสู่เป้าหมายร่วมกันคือสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนา สภาแห่งชาติเวียดนามประสานงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐสภาของประเทศอื่น ๆ เพื่อเสริมสร้างระบบพหุภาคีและส่งเสริมความร่วมมือเพื่อสร้างสรรค์เอเชียแปซิฟิกที่สงบสุข มั่นคง ยืดหยุ่นและเจริญรุ่งเรือง อีกทั้งเสนอเนื้อหาสำคัญ 6 ประเด็น เช่น การเสริมสร้างการดำเนินการของรัฐสภาและการตรวจสอบการปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลสมาชิกเอพีพีเอฟในการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาคและโลก สนับสนุนกิจกรรมความร่วมมือของเอเปกในการดำเนินการตามวิสัยทัศน์เอเปกจนถึงปี 2040 เกี่ยวกับประชาคมเอเชียแปซิฟิกที่เปิดกว้าง คล่องตัว พึ่งพาตนเอง สันติภาพเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประชาชนทุกคนและคนรุ่นต่อไปในอนาคต

 “ส่งเสริมความร่วมมือพหุภาคีเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความขัดแย้ง แสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาความมั่นคงและข้อพิพาทด้วยสันติวิธี ส่งเสริมการเจรจา สร้างความไว้วางใจ ใช้ความอดกลั้นต่อการกระทำแต่เพียงฝ่ายเดียวและปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ เรียกร้องให้รัฐสภาสมาชิกเอพีพีเอฟร่วมมือกันเพื่อค้ำประกันสันติภาพ เสถียรภาพและการให้ความเคารพกฎหมายในทะเลและมหาสมุทร โดยสร้างสรรค์ทะเลตะวันออกให้เป็นทะเลแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ร่วมมือ ธำรงความมั่นคง ความปลอดภับและเสรีภาพในการเดินเรือและการบิน แต่ละประเทศควรส่งเสริมความรับผิดชอบ ใช้ความอดกลั้น ไม่มีปฏิบัติการที่ทำให้สถานการณ์มีความซับซ้อนและตึงเครียดมากขึ้น แก้ไขการพิพาทให้สอดคล้องกับกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 หรือUNCLOS”

ภาพการประชุม

นาย เวืองดิ่งเหวะ ประธานสภาแห่งชาติกล่าวว่า ต้องส่งเสริมความร่วมมือระหว่างรัฐสภาเกี่ยวกับความมั่นคงแบบใหม่ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

“ส่งเสริมความร่วมมือโดยถือประชาชนเป็นศูนย์กลางและมุ่งสู่ประชาชนผ่านการค้ำประกันความมั่นคงของมนุษย์ การแบ่งปันผลประโยชน์ด้านสวัสดิการสังคมจากกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อค้ำประกันว่า ทุกภาคส่วนในสังคม โดยเฉพาะผู้หญิง เด็ก ผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยงได้รับผลประโยชน์ที่ชัดเจนจากการค้าเสรี การลงทุนและกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกที่เป็นธรรม นำผลประโยชน์มาสู่ทุกฝ่าย ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของรัฐสภาในการวางแผนและการตรวจสอบการดำเนินการนโยบายตามแนวทางถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง ค้ำประกันความเสมอภาค ความเท่าเทียมกันทางสังคม การแก้ไขความยากจนและมาตรการที่ครอบคลุมเกี่ยวกับสาธารณสุข สวัสดิการสังคมสำหรับประชาชนในช่วงฟื้นฟูหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19ได้รับการควบคุม สร้างพื้นฐานที่สำคัญเพื่อสันติภาพและความมั่นคงในแต่ละประเทศและในภูมิภาค”.