 นาย ฝ่ามมิงชิ้ง นายกรัฐมนตรีกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม |
ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นาย เหงวียนชี้หยุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุนได้เผยว่า ในรอบ 8 เดือนที่ผ่านมา เศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพ ภาวะเงินเฟ้อได้รับการควบคุม การขยายตัวได้รับการผลักดัน ความสมดุลย์ต่างๆได้รับการค้ำประกัน มูลค่าการส่งออกและนำเข้าเพิ่มขึ้น โดยในเดือนสิงหาคม มูลค่าการส่งออกได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.7 เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม ส่วนมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 ซึ่งเวียดนามได้เปรียบดุลย์การค้ากว่า 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในรอบ 8 เดือนที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกอยู่ที่กว่า 2 แสน 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้เปรียบดุลย์การค้ากว่า 20.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภาคการเกษตรพัฒนาอย่างมีเสถียรภาพและเป็นจุดเด่นและเสาหลักที่มั่นคงของเศรษฐกิจ มูลค่าการส่งออกสินค้าการเกษตรใน 8 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่กว่า 3 หมื่น 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ยอดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไออยู่ที่กว่า 1 หมื่น 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ8.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ในการกล่าวปราศรัยสรุปการประชุม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งได้ชี้ชัดถึงการปฏิบัติหน้าที่และมาตรการในเดือนกันยายนและเดือนที่เหลือของปี 2023 โดยให้ความสนใจต่อการผลักดันการขยายตัว การแก้ไขอุปสรรคในการผลิตและการประกอบธุรกิจผสานกับการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค การค้ำประกันสวัสดิการสังคมและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน พร้อมทั้งกำชับให้เสริมสร้างการเกษตร การบริการ ฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแปรรูป การผลิตและการแก้ไขอุปสรรคให้แก่ห่วงโซ่อุปทาน เน้นผลักดันสามพลังขับเคลื่อนของการขยายตัว
สำหรับการลงทุน ต้องผลักดันการเบิกจ่ายเงินลงทุนภาครัฐ ปฏิบัติโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคม โครงการเป้าหมายแห่งชาติ เป็นฝ่ายรุกในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่มีการคัดเลือกและมีคุณภาพ
สำหรับด้านการส่งออก ต้องธำรงตลาดเก่าและขยายตลาดใหม่ ๆ ยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการบริการเพื่อตอบสนองเงื่อนไขและมาตรฐานใหม่ โดยเฉพาะมาตรการแห่งสีเขียว ใช้โอกาสจากข้อตกลงการค้าเสรีต่างๆที่ได้ลงนาม ผลักดันการเจรจาและการลงนามข้อตกลงและคำมั่นต่างๆ รวมทั้งเน้นพัฒนาตลาดภายในประเทศ
สำหรับการบริหารนโยบายงบประมาณและการเงิน ต้องปฏิบัตินโยบายการเงินในเชิงรุก มีความคล่องตัว ทันการณ์และมีประสิทธิภาพผสานกับการปฏิบัตินโยบายงบประมาณและนโยบายต่างๆอย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพและรวดเร็วเพื่อผลักดันการขยายตัวผสานกับการค้ำประกันเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค
นอกจากนี้ ท่านนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้เน้นพัฒนาหน่วยนงานและด้านต่างๆ เช่น อุตสาหกรรม การเกษตร การบริการและการท่องเที่ยว แก้ไขอุปสรรค ปรับปรุงระเบียบราชการ การปรับเปลี่ยนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พัฒนาวัฒนธรรม สังคม ค้ำประกันงานด้านกลาโหม ความมั่นคง การต่างประเทศและผลักดันงานด้านการสื่อสารและประชาสัมพันธ์.