ในการกล่าวปราศรัย นายโห่มิงห์ต๊วน เอกอัครราชทูตเวียดนาม ณ กรุงปรากได้ยืนยันว่า บรรดาเอกอัครราชทูตอาเซียนและสาธารณรัฐเช็กพร้อมที่จะเป็นสะพานเชื่อมเพื่อขยายความสัมพันธ์ร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างสองฝ่ายให้เข้าสู่ส่วนลึกอย่างจริงจังเพื่อผลประโยชน์ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ส่วนรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสาธารณรัฐเช็กได้เผยว่า ในความเป็นจริง การค้าต่างตอบแทนยังไม่สูงนักเมื่อเทียบกับศักยภาพที่มีดังนั้นทั้งสองฝ่ายควรขยายความร่วมมือให้มากขึ้น

ส่วนในการตอบคำถามของผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำกรุงปราก เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐเช็ก ณรงค์ ศศิธร ได้ยืนยันว่า สาธารณรัฐเช็กเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจสำคัญของอาเซียนอยู่เสมอและอาเซียนให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนนี้

“ชมรมสถานประกอบการสาธารณรัฐเช็กต้องให้ความสนใจมากขึ้นต่อภูมิภาคอาเซียนหากประสงค์จะขยายกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยต้องมีวิธีการเข้าถึงอย่างรอบด้านต่อเอเชีย ซึ่งในนั้นอาเซียนถือเป็นภูมิภาคแห่งโอกาสความร่วมมือ เพราะสาธารณรัฐเช็กมีความสัมพันธ์กับบรรดาประเทศอาเซียนมาอย่างยาวนาน รวมทั้งกับประเทศเวียดนาม กัมพูชาและลาว นอกจากนี้ อาเซียนก็ได้รับการพยากรณ์ว่า จะเป็นภูมิภาคที่พัฒนาอย่างเข้มแข็งในอีก 5 ถึง 10 ปีข้างหน้า แน่นอนว่า นี่จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับสินค้าของสาธารณรัฐเช็ก”

กิจกรรมนี้ได้มีขึ้นตามความคิดริเริ่มของคณะกรรมการอาเซียน ณ กรุงปราก ซึ่งมี 5 ประเทศอาเซียนเข้าร่วม ประกอบด้วย ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และเวียดนามเพื่อผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างอาเซียนกับสาธารณรัฐเช็กและเป็นกิจกรรมส่วนหนึ่งเพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีวันก่อตั้งกลุ่มอาเซียน.