ในสภาวการณ์ที่มีแนวโน้มต่อต้านกระบวนการโลกภิวัตน์และการคุ้มครองการค้า อาเซียนยังคงเดินหน้าปฏิบัตินโยบายที่เปิดกว้าง ซึ่งเอื้อให้แก่การผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจในภูมิภาคและโลก และยังช่วยเปิดโอกาสต่างๆให้แก่สถานประกอบการอาเซียน นี่คือคำยืนยันของนาย เลเลืองมิง เลขาธิการอาเซียนนอกรอบการสัมมนาในหัวข้อ “50ปีแห่งการก่อตั้งและพัฒนาอาเซียน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนกับโอกาสให้แก่สถานประกอบการเวียดนาม” ปัจจุบัน อาเซียนคือภูมิภาคที่มีข้อตกลงการค้าเสรีมากที่สุด อาเซียนกำลังพยายามเสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในทุกด้านในภูมิภาคหรือ RCEP และกำลังเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีกับฮ่องกง ประเทศจีน ซึ่งคาดว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะลงนามข้อตกลงภายในปีนี้ นอกจากนี้ อาเซียนกำลังเจรจากับแคนาดาและสหภาพเศรษฐกิจเอเชีย-ยุโรปเกี่ยวกับการลงนามข้อตกลงการค้าเสรี
“ปัจจุบัน ได้มีการยกเว้นภาษีนำเข้าให้แก่สินค้าจากประเทศอาเซียนในขั้นพื้นฐาน ส่วนสำหรับประเทศต่างๆ เช่น เวียดนาม กัมพูชา ลาว เมียนมาร์จะปฏิบัตินโยบายดังกล่าวในปี 2018 ซึ่งวิสัยทัศน์อาเซียนปี 2025 ระบุว่า ในอีก 10ปีข้างหน้า อาเซียนจะปฏิบัตินโยบายที่เปิดกว้างต่อไปเพื่อผลักดันการผสมผสานด้านเศรษฐกิจและเปิดโอกาสต่างๆให้แก่สถานประกอบการ”.