เหตุรุนแรงในเขต Yabroud ใกล้กรุงดามัสกัส เมื่อวันที่ 20 ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 หมื่นคน (Photo: dantri.com.vn)

วันที่ 27 พฤษภาคม สหภาพยุโรป หรือ อียู ได้ตัดสินใจยกเลิกคำสั่งควํ่าบาตรด้านอาวุธให้แก่ฝ่ายต่อต้านในซีเรีย แต่ไม่มีแผนมอบอาวุธให้แก่ฝ่ายต่อต้านก่อนวันที่ 1 สิงหาคมนี้ เนื่องจากกังวลว่า จะส่งผลกระทบในทางลบต่อการประชุมสันติภาพที่รัสเซียและสหรัฐเสนอ นอกจากนี้ ยังมีความเห็นพ้องกันว่า จะพยายามควบคุมการค้าอาวุธเพื่อป้องกันไม่ให้อาวุธตกอยู่ในมือของกลุ่มหัวรุนแรง หรือ กลุ่มก่อการร้าย โดยในการกล่าวปราศรัยกับสื่อมวลชนหลังการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอียู ณ กรุงบรัสเซลส์  ประเทศเบลเยี่ยม นาย William Hague รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษได้เผยว่า จะคงมาตรการควํ่าบาตรต่อรัฐบาลของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาดทั้งหมดที่ประกาศตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งจะหมดอายุลงในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้  ทั้งนี้เป็นการส่งสาส์นอย่างเข้มแข็งของอียูถึงรัฐบาลซีเรีย อีกทั้งช่วยสร้างความคล่องตัวในการรับมือกับสถานการณ์ในซีเรียที่นับวันเลวร้ายลง  อย่างไรก็ตาม อียูยังคงมีความขัดแย้งกันในการตัดสินใจดังกล่าว โดยออสเตรีย  สวีเดน ฟินแลนด์และสาธารณรัฐเช็กได้คัดค้านการสนับสนุนอาวุธเพื่อทำการสู้รบในซีเรียที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 8 หมื่นคน โดยนาย Michael Spindelegger รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรียได้เผยว่า การมอบอาวุธให้แก่ฝ่ายต่อต้านในซีเรียเป็นสิ่งที่เดินสวนทางกับหลักการของยุโรป  ส่วนนาย Sergei Ryabkov รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้เผยว่า การยกเลิกคำสั่งควํ่าบาตรด้านอาวุธให้แก่ฝ่ายต่อต้านในซีเรียจะทำลายความพยายามโน้มน้าวให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในซีเรียเข้าร่วมการประชุมนานาชาติเพื่อสันติภาพในซีเรียที่รัสเซียและสหรัฐเสนอ./.