นาย เหงวียนบ๊าเซินได้ชี้ชัดว่า รัฐบาลเวียดนามได้ยืนยันหลายครั้งถึงอธิปไตยของเวียดนามเหนือหมู่เกาะหว่างซาและเจื่องซาบนพื้นฐานของหลักฐานทางประวัติศาสตร์และนิตินัยที่มั่นคงโดยได้รับการรับรองจากบรรดานักฎหมายและนักประวัติศาสตร์ การที่จีนยึดครอง ก่อสร้างเกาะเทียมและส่งเสริมการเคลื่อนไหวทางทหารบนแนวปะการังและเกาะหินสังกัดหมู่เกาะเจื่องซาเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้สถานการณ์ทวีความตึงเครียดมากขึ้น คุกคามต่อสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลตะวันออกและภูมิภาค
นาย เหงวียนบ๊าเซินได้เผยว่า ไม่มีประเทศใดมีสิทธิ์วาดเส้นฐานหมู่เกาะโดยรอบหมู่เกาะเจื่องซาและถือหมู่เกาะเจื่องซามีเขตเศรษฐกิจจำเพาะและไหล่ทวีปได้เพราะกลุ่มเกาะดังกล่าวไม่ตอบสนองเงื่อนไขเพื่อมีเส้นฐานของหมู่เกาะที่ถูกระบุในข้อที่ 47 ของอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982หรือเส้นฐานที่ถูกระบุในข้อที่ 7 เขตที่จีนเรียกกว่า แนวปะการังหว่านอานหรือแนวปะการังตือชิ้งตามภาษาเวียดนาม อยู่ใต้เขตทะเลในไหล่ทวีปของเวียดนาม ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหมู่เกาะเจื่องซา ดังนั้น การพิพาทด้านอธิปไตยเหนือหมู่เกาะเจื่องซาไม่สามารถทำให้เกิดการทับซ้อนระหว่างเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเลและไหล่ทวีปที่นับจากเส้นฐานชายฝั่งทะเลของเวียดนามกับแนวปะการังที่โผล่พ้นน้ำในหมู่เกาะเจื่องซา
เพื่อช่วยให้ทะเลตะวันออกเชื่อมโยงระหว่างทุกฝ่าย แต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องให้ความเคารพสิทธิ ผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของฝ่ายอื่นๆ ให้ความเคารพประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์มิตรภาพที่ฝ่ายต่างๆได้ทำนุบำรุงและปฏิบัติตามกฎหมายสากล.