 ภาพในการประชุม |
รายงานดังกล่าวระบุถึงแนวโน้มและรูปแบบการแก้ปัญหาความยากจนในเวลาที่ผ่านมาในเวียดนาม อีกทั้งเสนอมาตรการผลักดันศักยภาพการพัฒนาการเกษตรในเขตเขาที่มีอัตราผู้ยากจนอยู่ในระดับสูง ที่น่าสนใจคือ อัตราผู้ยากจนในเวียดนามได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอัตราผู้ยากจนที่เป็นชนกลุ่มน้อยลดลงร้อยละ 13 ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 10ปีที่ผ่านมา ส่วนคนที่มีความเสี่ยงที่จะกลับไปยากจนอีกครั้งได้ลงลดอยู่ที่ร้อยละ 2 ในช่วงปี 2014 - 2016 ปัจจุบัน ประชาชนเวียดนามร้อยละ 70 ได้รับการค้ำประกันด้านเศรษฐกิจ ส่วนชนชั้นกลางในเวียดนามได้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 ในช่วงปี 2010 - 2017
ในการนี้ นาย Ousmane Dione ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำเวียดนามได้ย้ำว่า รายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า การปฏิบัตินโยบายด้านเศรษฐกิจสังคมของเวียดนามได้ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาความยากจนและการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนหลายล้านคน พร้อมทั้งเสนอมาตรการต่างๆเพื่อแก้ปัญหาความยากจนและผลักดันความยุติธรรมทางสังคมในเวียดนาม“หนึ่งคือ ต้องผลักดันการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสร้างโอกาสการสร้างฐานะให้แก่ผู้ยากจนมากขึ้น สองคือ ต้องผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างการเกษตรเพื่อให้ผู้ยากจนในเขตชนบท โดยเฉพาะในเขตเขาสามารถเข้าร่วมการผลิตที่ได้กำไรสูง สามคือ ใช้ประโยชน์จากผลสำเร็จด้านการศึกษาของเวียดนามเพื่อสร้างโอกาสให้เด็กได้ไปเรียนในระดับอุดมศึกษาและการฝึกอบรมทักษะต่างๆสำหรับการทำงานในอนาคต”
นาย Ousmane Dione ได้ยืนยันว่า ธนาคารโลกให้คำมั่นที่จะช่วยเหลือรัฐบาลเวียดนามในการแก้ปัญหาความยากจนและผลักดันความยุติธรรมทางสังคมเพื่อให้ประชาชนเวียดนามทุกคนสามารถหลุดพ้นความยากจนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหนึ่งในประเด็นที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในกรอบหุ้นส่วนของธนาคารโลกกับเวียดนามระยะปี 2018 - 2020 คือการขยายตัวอย่างครอบคลุม โดยตั้งเป้าหมายว่า ให้การสนับสนุนด้านเศรษฐกิจให้แก่ผู้ยากจนและกลุ่มผู้ด้อยโอกาสเพื่อสร้างโอกาสสร้างฐานะให้แก่ประชาชนในเขตด้อยพัฒนา.