บรรดาผู้นำประเทศใหญ่ เช่น สหรัฐ จีน รัสเซียและฝรั่งเศสได้มีบทปราศรัยเกี่ยวกับงานด้านการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ผลสำเร็จในด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีนและนโยบายการเข้าถึงปัญหาระหว่างประเทศ ส่วนจีนและรัสเซียได้เรียกร้องให้สหประชาชาติส่งเสริมบทบาทในการแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศและย้ำถึงความสำคัญของลัทธิพหุภาคีและความร่วมมือระหว่างประเทศในปัญหาระดับโลก เช่น การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19

บทปราศรัยของประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ได้ตำหนิจีนในหลายปัญหาที่ร้อนระอุ โดยเห็นว่า ประเทศต่างๆต้องบังคับให้จีนรับผิดชอบที่ปล่อยให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Sars- CoV- 2 ในทั่วโลก พร้อมทั้ง กล่าวหาจีนและองค์การอนามัยโลกว่า จัดสรรข้อมูลที่ผิดพลาดเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัส Sars- CoV-2

ส่วนประธานประเทศจีน สีจิ้นผิงได้กล่าวปราศรัยปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ไร้มูลความจริงของสหรัฐ โดยย้ำถึงคำมั่นที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการควบคุมการแพร่ระบาดและมาตรการรักษาโรค ให้ความช่วยเหลือประเทศที่กำลังพัฒนาในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด -19 จีนยังให้คำมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในอีก 2 ปีข้างหน้าให้แก่ประเทศต่างๆทั้งในด้านการเกษตร การแก้ปัญหาความยากจน การศึกษา สตรีและเด็ก การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม สิ่งที่น่าสนใจคือประธานประเทศ สีจิ้นผิง ได้เผยว่า จีนไม่อยากก่อสงครามกับประเทศใดและจะแก้ไขความขัดแย้งและปัญหาการพิพาทกับประเทศต่างๆผ่านการสนทนาและการเจรจา ส่วนประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครงได้ตำหนิการเพิ่มแรงกดดันของสหรัฐต่ออิหร่านและเห็นว่า นี่เป็นความล้มเหลว พร้อมทั้ง ชี้ชัดถึงประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในนโยบายของฝรั่งเศสต่อปัญหาระหว่างประเทศ รวมทั้ง ปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่าน.