เลขาธิการใหญ่พรรค เหงียนฟู้จ่อง

(VOVworld) – วันที่ 8 กรกฎาคม สำนักข่าว Sputnik ได้ลงบทความที่พาดหัวว่า “การเยือนสหรัฐครั้งประวัติศาสตร์ของเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม”โดยมีเนื้อหาว่า “การพบปะระหว่างเลขาธิการใหญ่พรรค เหงียนฟู้จ่องและนาย บารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐ ณ โอวัลออฟฟิศมีความแตกต่างจากพิธีการทางการทูตของสหรัฐเพราะได้แสดงให้เห็นว่า สหรัฐได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมากต่อการเยือนของเลขาธิการใหญ่พรรค เหงียนฟู้จ่อง” บทความได้ระบุว่า นี่คือกิจกรรมสำคัญพิเศษ รัฐบาลสหรัฐมีความหวังว่า การพบปะนี้จะมีส่วนร่วมผลักดันความไว้วางใจของเวียดนามต่อสหรัฐ  ส่วนที่อังกฤษ สำนักข่าวใหญ่ๆก็ให้ความสนใจถึงกิจกรรมนี้โดยสำนักข่าว Reuters ของอังกฤษได้ประเมินว่า การเยือนสหรัฐของเลขาธิการใหญ่ เหงียนฟู้จ่องคือกิจกรรมที่มีความหมายสำคัญต่อทั้งสองประเทศและย้ำอีกครั้งถึงการเยือนเวียดนามของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ บิลคลินตั้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นผู้ที่วางรากฐานให้แก่ความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรั ส่วนสำนักข่าว BBC ได้อ้างคำกล่าวของเลขาธิการใหญ่พรรค เหงียนฟู้จ่องที่ว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุด” คือทั้งสองประเทศได้กลายเป็นเพื่อนมิตรและหุ้นส่วนในทุกด้านและการเจรจาได้มีขึ้นในบรรยากาศที่เป็นมิตร สร้างสรรค์ กระตือรือร้นและตรงไปตรงมา
ผู้สื่อข่าวของสถานีวิทยุเวียดนามประจำลาวรายงานว่า วันที่ 9 กรกฎาคม หนังสือพิมพ์ใหญ่ๆของลาวได้ลงข่าวและบทความเกี่ยวกับการเยือนสหรัฐของเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เหงียนฟู้าจ่องโดยหนังสือพิมพ์ประชาชนซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคประชาชนปฏิวัติลาวได้รายงานว่า ในกรอบการเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการของท่านเหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เวียดนามและสหรัฐได้ลงนามเอกสารความร่วมมือ 4 ฉบับในด้านการเงิน การบินพลเรือน ภาษีและความร่วมมือรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ในวันเดียวกัน หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ก็ได้ลงบทความที่พาดหัวว่า “เวียดนามและสหรัฐได้ลงนามข้อตกลงร่วมมือ” โดยรายงานว่า ผู้นำของเวียดนามและสหรัฐได้เห็นพ้องสถาปนาความสัมพันธ์ร่วมมือในทุกด้านอย่างยั่งยืน มีประสิทธิภาพและเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ส่วนสำนักข่าวลาว KLP ได้ลงบทความเกี่ยวกับแถลงการณ์ว่าด้วยวิสัยทัศน์ร่วมความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐและยืนยันว่า ผลงานในความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรันั้นมาจากการที่ทั้งสองฝ่ายได้มีความพยายามที่มีลักษณะสร้างสรรค์เพื่อแก้ไขความเห็นที่แตกต่างกันและผลักดันผลประโยชน์ร่วมกันเพื่อมุ่งสู่อนาคต.