สื่อต่างประเทศลงข่าวพิธีฉลองครบรอบ 40 ปีการรวมประเทศเป็นเอกภาพ

Chia sẻ
(VOVworld) – สำนักข่าวใหญ่ๆและสื่อประเทศต่างๆได้ลงบทความเกี่ยวกับพิธีฉลองครบรอบ 40 ปีการปลดปล่อยภาคใต้ รวมประเทศเป็นเอกภาพของเวียดนาม

สื่อต่างประเทศลงข่าวพิธีฉลองครบรอบ 40 ปีการรวมประเทศเป็นเอกภาพ - ảnh 1
สถานีวิทยุเยอรมนีลงบทความเกี่ยวกับพิธีฉลองการรวมประเทศเป็นเอกภาพของเวียดนาม

(VOVworld) – เมื่อวันที่ 30 เมษายน สำนักข่าวใหญ่ๆและสื่อประเทศต่างๆได้ลงบทความเกี่ยวกับพิธีฉลองครบรอบ 40 ปีการปลดปล่อยภาคใต้ รวมประเทศเป็นเอกภาพของเวียดนาม
ในหลายวันที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ใหญ่ๆของลาวได้ลงบทความเกี่ยวกับความหมายทางประวัติศาสตร์ของชัยชนะในวันที่ 30 เมษายน ผลสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของเวียดนามและนครโฮจิมินห์หลัง 40 ปีที่ได้รวมประเทศเป็นเอกภาพ โดยยืนยันว่า ชัยชนะในวันที่ 30 เมษายนยังเป็นชัยชนะแห่งความสามัคคีที่เหนียวแน่นในการต่อสู้ของประชาชนสามประเทศพี่น้องคือ เวียดนาม ลาวและกัมพูชา
ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวซินหัวของจีนได้อ้างคำปราศรัยของท่านเหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีในพิธีชุมนุม ณ นครโฮจิมินห์ที่ยืนยันว่า วันที่ 30 เมษายนปี 1975 ได่เปิดหน้าใหม่ในประวัติศาสตร์การสร้างสรรค์และปกป้องประเทศที่รุ่งโรจน์ของเวียดนาม จากชัยชนะดังกล่าว เวียดนามได้เสร็จสิ้นภารกิจทางประวัติศาสตร์คือปลดปล่อยภาคใต้ รวมประเทศเป็นเอกภาพ นำเวียดนามเข้าสู่ศักราชใหม่แห่งเอกราช เอกภาพและสร้างสรรค์ประเทศเวียดนามสังคมนิยมให้กลายเป็นประเทศที่มีประชาชนมั่งคั่ง ประเทศเข้มแข็ง สังคมมีประชาธิปไตย ยุติธรรมและอรยธรรม
สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นได้ลงบทความที่ย้ำถึงคำเรียกร้องของนายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงต่อคนเวียดนามรุ่นใหม่ให้พัฒนาภารกิจการปฏิวัติที่รุ่งโรจน์ของบรรพบุรุษโดยการสร้างสรรค์ประเทศให้เจริญรุ่งเรือง
ส่วนบทความของสำนักข่าวเอพีของสหรัฐได้ยืนยันว่า ขบวนรถถังที่เข้าเมืองไซง่อนพุ่งชนประตูทำเนียบดกเหลิบหรือเอกราชพังเป็นชัยชนะอันมหัศจรรย์ของกองกำลังปฏิวัติที่ได้ทำสงครามทหารบ้านในกว่า 1 ทศวรรษเพื่อต่อต้านกองทัพสหรัฐที่ติดอาวุธทันสมัยกว่า บทความยังอ้างคำพูดของนาวิกโยธินสหรัฐนายหนึ่งที่ได้เข้าร่วมการชุมนุมที่แสดงความรู้สึกอับอายเกี่ยวกับสิ่งที่ทหารอเมริกันได้ก่อขึ้นในเวียดนาม และเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐค่อยๆอบอุ่นมากขึ้นและพัฒนาต่อไป ส่วนสำนักข่าวเอเอฟพีของฝรั่งเศสได้ย้ำถึงผลกระทบอันหนักหน่วงที่กองทัพสหรัฐได้ก่อขึ้นกับประชาชนเวียดนาม รวมทั้งผู้ที่โดนสารพิษสีส้มไดอ๊อกซิน บบความได้อ้างคำพูดของนาย Ted Osius เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเวียดนามในพิธีฉลอง ณ สถานกงสุลสหรัฐประจำนครโฮจิมินห์ว่า ชาวอเมริกันยังจำและเคารพอดีตแต่มองไปยังอนาคตและสร้างสรรค์อนาคตบนพื้นฐานคืออดีต พร้อมทั้งยืนยันว่า ความสัมพันธ์สหรัฐ – เวียดนามนับวันได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ส่วนดร. Abdelmadjid Chikhi ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานเก็บข้อมูลแห่งชาติแอลจิเรียและเป็นทหารผ่านศึกได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเวียดนามประจำแอลจิเรียว่า  แอลจิเรียให้ความเคารพต่อประธานโฮจิมินห์และผลเอกหวอเงวียนย๊าป พร้อมทั้งส่งความปรารถนาดีและความรู้สึกยินดีต่อประชาชนเวียดนามเนื่องในโอกาสวันฉลองชัยชนะ 30 เมษายนของเวียดนาม./.

Komentar