สหรัฐย้ายสถานทูตจากกรุงเทวอาวีฟไปยังเมืองเยรูซาเล็ม

Chia sẻ
(VOVWORLD) - ถึงแม้จะถูกประท้วงจากประเทศต่างๆ แต่สหรัฐก็ได้เปิดสถานทูต ณ เมืองเยรูซาเล็มเมื่อเวลา 16.00น.ของวันที่ 14พฤษภาคมตามเวลาท้องถิ่น  
สหรัฐย้ายสถานทูตจากกรุงเทวอาวีฟไปยังเมืองเยรูซาเล็ม - ảnh 1 นาย David Friedman เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำอิสราเอลกล่าวปราศรัยในพิธี (Reuters)

การตัดสินใจย้ายสถานทูตสหรัฐในอิสราเอลไปยังเมืองเยรูซาเล็มทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางตึงเครียดมากขึ้นและส่งผลกระทบในทางลบต่อกระบวนการสันติภาพในภูมิภาคที่กำลังอยู่ในภาวะชงักงัน ซึ่งประเทศต่างๆ รวมถึงพันธมิตรของสหรัฐได้แสดงความวิตกกังวลพร้อมทั้งคัดค้านปฏิบัติการดังกล่าวของสหรัฐโดยกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลได้เผยว่า มีแขกรับเชิญร้อยละ 70 ในจำนวนเอกอัครราชทูต 86 คนปฏิเสธไม่เข้าร่วมพิธีดังกล่าว

ส่วนโฆษกของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เทเรซา เมย์ ได้ยืนยันว่า อังกฤษไม่มีแผนย้ายสถานทูตในอิสราเอลไปยังเมืองเยรูซาเล็ม พร้อมทั้งย้ำว่า ทางการลอนดอนไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจดังกล่าวของสหรัฐ

ในวันเดียวกัน นาย Ahmed Abul Gheit เลขาธิการสันนิบาตรอาหรับหรือ AL ได้ตำหนิประเทศที่เข้าร่วมพิธีเปิดสถานทูตสหรัฐ ณ เมืองเยรูซาเล็ม ซึ่งถือเป็นการกระทำที่อันตราย ละเมิดกฎหมายสากลและมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่างอุกอาจ คาดว่า AL จะประชุมฉุกเฉินในวันที่ 16พฤษภาคมเพื่อหารือถึงมาตรการประท้วงการตัดสินใจของสหรัฐ

ส่วนนาย Nabil Abu Rdeineh โฆษกของนาย มาห์มุด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ได้เผยว่า การกระทำดังกล่าวของสหรัฐเป็นการปลูกปั่นให้เกิดความไร้เสถียรภาพ พร้อมทั้งปฏิเสธบทบาทของสหรัฐในการเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยในกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลาง

สหรัฐย้ายสถานทูตจากกรุงเทวอาวีฟไปยังเมืองเยรูซาเล็ม - ảnh 2นาง  Ivanka Trump ลูกสาวของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในพิธีเปิดสถานทูสหรัฐ ณ เมืองเยรูซาเล็ม  (Reuters) 

ส่วนผู้นำศาสนาอิสลามของอียิปต์ได้ถือการย้ายสถานทูตสหรัฐไปยังเมืองเยรูซาเล็มเป็นการกระทำที่ยั่วยุต่อผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม 1,5 พันล้านคนทั่วโลก ในขณะที่กระทรวงการต่างประเทศอิหร่านได้เรียกร้องให้ชาวมุสลิมสามัคคีกันและมีมาตรการต่างๆเพื่อต่อต้านการตัดสินใจดังกล่าวของสหรัฐ พร้อมทั้งเตือนเกี่ยวกับผลกระทบจากการกระทำดังกล่าว

ในวันเดียวกัน นาย โยชิฮิเดะ ซูงะ ปลัดสำนักคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ยืนยันถึงจุดยืนของญี่ปุ่นว่า ทุกปัญหาการพิพาทและการกำหนดระเบียบการของเมืองเยรูซาเล็มต้องได้รับการแก้ไขผ่านการเจรจาระหว่างชาวอิสราเอลกับชาวปาเลสไตน์ ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศสได้เรียกร้องให้อิสราเอลและปาเลสไตน์มีปฏิบัติการต่างๆอย่างมีความรับผิดชอบและไม่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นในขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้เผยว่า รัสเซียประท้วงทุกปฏิบัติการเพียงฝ่ายเดียวที่มุ่งเปลี่ยนแปลงมติของสหประชาชาติเกี่ยวกับสภาพของเมืองเยรูซาเล็ม

ส่วนสาธารณรัฐเช็ก ฮังการีและโรมาเนียได้ขัดขวางการออกแถลงการณ์ร่วมของอียูที่ตำหนิการย้ายสถานทูตสหรัฐประจำอิสราเอลไปยังเมืองเยรูซาเล็ม โดยสาธารณรัฐเช็กมีแผนเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ในเมืองเยรูซาเล็มในปลายเดือนนี้ ส่วนโรมาเนียกำลังวางแผนย้ายสถานทูตในอิสราเอลไปยังเมืองเยรูซาเล็ม.

Komentar