โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ Morgan Ortagus (Photo C-Span) |
นี่คือการกระทำล่าสุดของจีนเพื่อประกาศอธิปไตยที่ละเมิดกฎหมายและทำลายความเป็นเพื่อนบ้านของบรรดาประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับจีนในทะเลตะวันออก นับตั้งแต่ที่โรคโควิด -19 แพร่ระบาดทั่วโลก จีนได้ประกาศเปิดศูนย์วิจัยแห่งใหม่บนเกาะด๊าจื๋อเถิบและเกาะซูบี พร้อมทั้งส่งเครื่องบินทหารลงจอดที่เกาะด๊าจื๋อเถิบและส่งทหารไปยังบริเวณรอบเกาะเจื่องซาหรือเสปรตลีย์
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐยืนยันว่า สิ่งที่เรียกว่า “เส้นประ 9 เส้น” ของจีนเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2016 ถูกศาลอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยปฏิเสธเนื่องจากละเมิดกฎหมายการเดินเรือตามอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 และรัฐบาลสหรัฐเห็นด้วยกับคำวินิจฉัยดังกล่าว สหรัฐเรียกร้องให้จีนเน้นให้การช่วยเหลือระหว่างประเทศเพื่อรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ยุติการฉวยโอกาสทำลายประเทศอื่นเพื่อส่งเสริมการประกาศอธิปไตยที่ละเมิดกฎหมายในทะเลตะวันออก
สำหรับกรณีการชนเรือเวียดนามดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 เมษายน ตัวแทนของกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ส่งจดหมายคัดค้านต่อตัวแทนสถานทูตจีนประจำเวียดนาม โดยเรียกร้องให้จีนเปิดการสอบสวนและลงโทษเจ้าหน้าที่บนเรือตรวจการทางทะเลดังกล่าวของจีน ไม่ปล่อยให้เกิดกรณีในลักษณะนี้ขึ้นอีกและชดเชยให้แก่ชาวประมงเวียดนาม ในวันเดียวกัน นาง เลถิทูหั่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ย้ำว่า การกระทำดังกล่าวของเรือตรวจการทางทะเลของจีนได้ละเมิดอธิปไตยของเวียดนามเหนือหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลล์ เดินสวนกับความเข้าใจร่วมระหว่างผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศเกี่ยวกับการปฏิบัติอย่างมีมนุษยธรรมต่อชาวประมงและข้อตกลงเกี่ยวกับหลักการขั้นพื้นฐานในการชี้นำการแก้ไขปัญหาทางทะเลระหว่างเวียดนามกับจีน ขัดกับเจตนารมณ์ของแถลงการณ์ดีโอซี ทำให้สถานการณ์ซับซ้อนมากขึ้นและส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ การธำรงสันติภาพ เสถียรภาพและความร่วมมือในทะเลตะวันออก.
ฝ่ามฮวน ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำสหรัฐ