คณะผู้แทนเวียดนามในการประชุม |
การประชุมครั้งนี้ได้มีขึ้นในระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ – 13 มีนาคมแล้วได้กลับมาจัดต่ออีกครั้งในระหว่างวันที่ 15-22 มิถุนายน โดยมีการจัดการประชุมครบองค์ 47 ครั้งและการประชุมอย่างไม่เป็นทางการอีกประมาณ 60 ครั้ง ส่วนการประชุมผู้นำที่มีขึ้นในระหว่างวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ มีผู้นำของ 101 ประเทศเข้าร่วม ที่ประชุมได้อนุมัติมติ 39 ฉบับ คำสั่ง 17 ฉบับและแถลงการของประธานการประชุมเกี่ยวกับผลกระทบของโรคโควิด – 19 ต่อสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่เกิดการชุมนุมประท้วงในประเทศต่างๆเกี่ยวกับ การเหยียดเชื้อชาติและการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุของตำรวจต่อคนผิวสี โดยได้มีการจัดการประชุมฉุกเฉินตามข้อเสนอของกลุ่มประเทศแอฟริกาเกี่ยวกับการต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและการเลือกปฏิบัติต่อคนผิวสี โดยได้อนุมัติมติเกี่ยวกับการปกป้องสิทธิของประชาชนแอฟริกาและคนเชื้อสายแอฟริกัน ต่อต้านการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุของตำรวจและการละเมิดสิทธิมนุษยชน
คณะผู้แทนเวียดนามได้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวอย่างเข้มแข็ง โดยนาย ฝ่ามกวางเหียว ผู้ช่วยรัฐมนตรีและนาง เลถิเตวี๊ยดมาย หัวหน้าคณะผู้แทนเวียดนามประจำสหประชาชาติ องค์การการค้าโลกและองค์การต่างๆ ณ เมืองเจนีวาได้มีการพบปะหารือและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆในกรอบการประชุมของสหประชาชาติ
ส่วนเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน นาย ดั๋งมิงห์โทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เข้าร่วมการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ประจำเดือนของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับ “สถานการณ์ในตะวันออกกลาง รวมทั้งปัญหาปาเลสไตน์”
ในการกล่าวปราศรัยในการประชุม รัฐมนตรีช่วย ดั๋งมิงห์โทยได้ยืนยันว่า เวียดนามสนับสนุนมาตรการสองรัฐอยู่ร่วมกันอย่างสันติโดยมีการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ที่มีเยรูซาเลมตะวันออกเป็นเมืองหลวงตามเส้นแบ่งพรมแดนที่ได้รับการรับรองก่อนปี 1967 และมติที่เกี่ยวข้องต่างๆของสหประชาชาติ ตลอดจนเรียกร้องให้ทุกฝ่ายสนทนา พยายามแสวงหามาตรการแก้ไขอย่างสมบูรณ์ มีความยุติธรรมและสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหาการปะทะระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ เวียดนามชื่นชมความพยายามต่างๆเพื่อฟื้นฟูกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลางและพร้อมมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งเพื่อผลักดันการสนทนาและการเจรจาระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์.