(VOVworld) –เมื่อวันที่๕เดือนนี้ นายPhạm Bình Minhรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้มีการพบปะหารือกับนาย Leon Panetta รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐเกี่ยวกับปัญหาทวิภาคีและภูมิภาคที่ให้ความสนใจร่วมกันโดยรัฐมนตรีPhạm Bình Minhได้ชื่นชมความร่วมมือในการสืบหาทหารที่สูญหายในสงครามและเสนอให้รัฐบาลสหรัฐมีส่วนร่วมแก้ไขผลเสียหายอันเนื่องมาจากสงครามอย่างจริงจังมากขึ้นโดยเฉพาะ การกู้ทุ่นระเบิด การชะล้างสารพิษสีส้ม และให้ความช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้ม ทั้งสองฝ่ายแสดงความประสงค์ที่จะผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีเช่นเดียวกับในกรอบของอาเซียน และฟอรั่มภูมิภาคเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาค และยืนยันว่า จะร่วมมือกันในหลายด้าน เช่น ความมั่นคง ความปลอดภัยของการเดินเรือในทะเลตะวันออก การปกป้องแหล่งน้ำและพัฒนาแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน

นักข่าววิทยุเวียดนามประจำสหรัฐรายงานว่า วงการสื่อมวลชนของสหรัฐได้ประเมินว่า วัตถุประสงค์การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนาย Leon Panetta รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐก็เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์กับเวียดนามให้พัฒนามากขึ้น รวมทั้งในด้านกองทัพ พร้อมทั้งย้ำถึงยุทธศาสตร์การกลับมาให้ความใจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของสหรัฐและยังประเมินว่า การเยือนเวียดนามครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงการส่งเสริมความร่วมมืออย่างกว้างลึกระหว่างสหรัฐกับเวียดนามโดยนาย Leon Panetta  ได้แสดงความปรารถนาที่จะได้เห็นถึงการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูง ความร่วมมือในด้านทะเล งานด้านการค้นหาและกู้ภัย กิจกรรมการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การลดความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ตลอดจนกิจกรรมการรักษาสันติภาพ ในการให้สัมภาษณ์นักข่าวของสำนักข่าว Foxnews ของสหรัฐ นาย Leon Panetta  ได้ย้ำถึงความสำคัญของการเยือนเวียดนาม พร้อมทั้งแสดงความปรารถนาที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์กับเวียดนามให้พัฒนามากขึ้น“สงครามเวียดนามไม่เพียงแต่ช่วยสอนบทเรียนที่ล้ำค่าให้แก่สหรัฐเท่านั้น หากยังช่วยให้สหรัฐมองเห็นถึงความรับผิดชอบของตนมากขึ้นคือ ต้องมีส่วนร่วมต่อกระบวนการสมานรอยแผลแห่งความเจ็บปวดจากสงครามผ่านการปรับปรุงความสัมพันธ์กับเวียดนามให้ดีขึ้น”นอกจากนี้ สื่อมวลชนของสหรัฐยังรายงานข่าวเกี่ยวกับการเดินทางไปเยือนอ่าว CamRanh ในจังหวัด KhanhHoa ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐและอ้างคำกล่าวของนาย Leon Panetta ว่า การเยือนเวียดนามเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่แสดงให้เห็นว่า ความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสหรัฐได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น./.